ไม่พบผลการค้นหา
ผลการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้ว พปชร.ชนะ ปชป. ด้าน ‘ประวิตร’ ปลื้ม ขอบคุณที่ประชาชนไว้วางใจ ยืนยัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย โดย กกต.รายงานผลผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 69 พปชร.เฉือนชนะ ปชป.กว่า 4,000 แต้ม

วันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 3 โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ  ดังนี้

 1.ลำดับที่ 1 เบอร์ 4 อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 48,701 คะแนน

 2.ลำดับที่ 2 เบอร์ 3 พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ พรรค ประชาธิปัตย์ ได้ 44,632 คะแนน

  3.ลำดับที่ 3 เบอร์ 1 สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ พรรคกล้า ได้ 6,216 คะแนน

  4.ลำดับที่ 4 เบอร์ 2 ว่าที่ ร.ต. อภิรัฐ รัตนพันธ์ พรรคเสรีรวมไทย ได้ 2,302 คะแนน

ทั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน 69.38 % บัตรเสีย 1.66 % ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1.77%

เลือกตั้งซ่อม สส นครศรีธรรมราช ผลไม่ทางการ กกต -C190-4203-A1BC-1ADBB516444F.jpegเลือกตั้งซ่อม สส นครศรีธรรมราช ผลไม่ทางการ กกต 691C0F45-0EA7-4104-A5BE-999A1EBA7DCE.jpeg

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังผู้แทนจากพรรคพลังประชารัฐ ได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ไว้วางใจเลือกผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐให้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน เข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

"ในนามของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง พรรคพลังประชารัฐ จะทำหน้าที่พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบ เกิดความรักความสามัคคีและ ทำให้ประขาชนอยู่ดี กินดี พวกเราครอบครัวพลังประชารัฐจะร่วมกันนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน" พล.อ.ประวิตร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของผลอย่างเป็นทางการคงต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงข่าวอีกครั้ง  

พปชร. พลังประชารัฐ อาญาสิทธิ์ ธรรมนัส  นครศรีธรรมราช

ด้าน เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า “ผมและครอบครัวเสนพงศ์ ขอขอบคุณพี่น้องเพื่อนสื่อมวลชนทุกคน ที่ติดตามเสนอข่าวสารการหาเสียงเป็นอย่างดี เราต่างก็ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็คิดว่าเป็นการแข่งขันทางการเมือง"