ความเปลี่ยนแปลงของสหภาพโซเวียตตั้งแต่ 30 ปีก่อน ส่งผลกระทบต่อ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของรัสเซียเช่นกัน โดยปูตินเปิดเผยในภาพยนตร์สารคดีล่าสุดอย่าง ‘RIA-Novosti’ ว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มลงแล้ว เขาเคยประกอบอาชีพคนขับรถแท็กซี่มาก่อน เพื่อ “หาเงินพิเศษ” เลี้ยงชีพตัวเอง
“ผมได้เงินพิเศษจากรถด้วยการเป็นคนขับรถส่วนบุคคล พูดกันตามตรง มันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่จะพูดถึง แต่โชคไม่ดีนัก เพราะมันก็เกิดขึ้นจริง” ปูตินระบุในสารคดี ถึงการดิ้นรนของของตนหลังจากการที่สหภาพโซเวียตล่มลง นำมาสู่การก่อร่างสร้างของสหพันธรัฐรัสเซียขึ้นใหม่
ปูตินเผยว่า การล่มลงของสหภาพโซเวียตไม่ต่างอะไรไปจากจุดสิ้นสุดของ “ประวัติศาสตร์รัสเซีย” ปูตินยังได้ย้ำอีกว่า จุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์รัสเซียเมื่อ 3 ทศวรษก่อน ยังคงทิ้งร่องรอยของ “โศกนาฏกรรม” ให้แก่ “ประชาชนจำนวนมาก”
อย่างไรก็ดี ปูตินเคยเป็นอดีตสายลับ KGB ของสหภาพโซเวียตในช่วงยุคสงครามเย็นราวทศวรรษที่ 1970 เป็นต้นมา ปูตินยังเคยประจำการอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มอสโก ไปจนถึงเยอรมันตะวันออก จนสหภาพโซเวียตล่มลงใน ค.ศ.1991 ก่อนที่เขาจะเริ่มผันตัวเข้าวงการการเมืองของรัสเซีย จนไต่เต้าขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีอย่างในเวลาปัจจุบัน
การเปลี่ยนผ่านจากสหภาพโซเวียตสู่สหพันธรัฐรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัสเซียอย่างมาก โดยมันทำให้ประชาชนนับล้านคนของรัสเซียประสบกับภาวะอดอยาก หลังจากรัสเซียพึ่งพาระบอบคอมมิวนิสต์มานานเกือบ 8 ทศวรรษ และปรับตัวเข้าสู่ระบอบทุนนิยมได้เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน
ขณะนี้ ปูตินกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขาพยายามจะฟื้นคืนชีพสหภาพโซเวียตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากมีการรายงานจากสำนักงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ว่า รัสเซียอาจมีการบุกยูเครนในเวลาอันใกล้นี้ สอดคล้องกันกับที่กองกำลังของรัสเซียได้ยกพลประชิดชายแดนรัสเซีย-ยูเครนแล้ว
ความตึงเครียดในระลอกล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนกำลังจะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในขณะที่ชาติตะวันตกได้ออกเตือนรัสเซียว่า การตัดสินใจบุกบูเครนของรัสเซีย อาจนำมาซึ่งการคว่ำบาตรทางการเมืองและเศรษฐกิจในอีกระลอกหนึ่ง อย่างไรก็ดี รัสเซียยังคงปฏิเสธข่าวกรองดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ไม่ให้การสนับสนุนยูเครนในการเข้าร่วม NATO
ที่มา:
https://www.washingtonpost.com/world/2021/12/08/russia-ukraine-satellite-images/