วันที่ 20 เม.ย. 2566 นิกม์ เเสงศิรินาวิน ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต14 (หนองจอก-คลองสามวา)เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนในฐานะหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มเส้นด้ายตัดสินใจ สมัครส.ส.ครั้งนี้ เพราะช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาดนั้น ตนในฐานะกลุ่มอาสาได้ช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่เเละได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดีเเละเมื่อมีการเลือกตั้งจึงพิจารณานโยบายพรรคต่างๆประกอบการตัดสินใจ จึงเลือกพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้ เพราะเเกนนำพรรคตัดสินใจร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขเเละอาสาสมัครในการวางเเผนรับมือในตอนนั้นได้ดี ไม่อย่างนั้นคนไทยจำนวนมากจะต้องเจ็บป่วยเเละเสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมทั้งมาตรการในอนาคตที่จะยกระดับการบริการสาธารณสุขในสี่ปีข้างหน้าที่พรรควางเเนวทางไว้ในการเลือกตั้งครั้งนี้

นิกม์กล่าวว่า ตนไม่ใช้ชื่อกลุ่มเส้นด้ายในการทำงานการเมือง เพราะตอนร่วมตั้งกลุ่มนั้น มีความตั้งใจทำงานเพื่อสังคมโดยเเท้จริงหากสมาชิกในกลุ่มอยากทำงานการเมืองก็น่าจะพิจารณานโยบายพรรคต่างๆว่ามีเเนวทางอย่างไร ตนจึงเเยกตัวออกจากกลุ่มเเละเลือกทำงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยเพราะได้หารือกับเเกนนำพรรค เช่นนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค ก็พบความตั้งใจในการยกระดับการทำงานของระบบสาธารณสุขในสี่ปีข้างหน้า จึงมั่นใจว่าตัดสินใจไม่ผิด

นิกม์กล่าวว่า นโยบายพรรคด้านสาธารณสุขของพรรคนั้นตอบโจทย์ของเขตเลือกตั้งนี้ได้ดีเเม้เขตนี้จะอยู่ในกทม.เเต่อยู่ห่างใจกลางเมืองเเละเเหล่งรักษาพยาบาลพอสมควร ทำให้ประชาชนลำบากพอสมควรในการเข้าใช้บริการสถานพยาบาล ดังนั้นนโยบายพรรคที่วางไว้เเละตนมั่นใจว่าจะดำเนินการให้ประชาชนในเขตนี้คือ

นโยบายสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิ เป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิต ทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต คือผู้ที่มีอายุ60ปีขึ้นไปหากเสียชีวิตได้หนึ่งเเสนบาท หรือหากจะกู้ ก็กู้ได้20000บาทโดยไม่มีคนค้ำประกัน

นิกม์ กล่าวว่า นโยบายเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ฟรี ทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอเเละการผลิต อสม.ตำบล 1 ผู้ช่วยพยาบาล โดยตั้งเป้าปีละ 3,000-5,000 คน เพื่อให้ชาวบ้านมั่นใจมากขึ้นว่าป่วยในเบื้องต้น อสม.สามารถดูแลได้ รวมทั้งเพิ่มค่าตอบเเทนให้อสส.เดือนละ2000บาท 

นิกม์กล่าวว่าในเขตนี้พบว่ามีการเเข่งขันพอสมควรจากผู้สมัครพรรคต่างๆ เเม้ตนจะเป็นคนหน้าใหม่ในเวทีการเมือง เเต่ความตั้งใจที่ตนมีบวกกับนโยบายพรรคในสี่ปีข้างหน้า เชื่อว่าพรรคน่าจะปักธงส.ส.เขตนึ้ได้ เพราะตนมั่นใจในผลงานที่เคยช่วยเหลือประชาชนเเละนโยบายพรรคที่พูดเเล้วทำในสี่ปีที่เเล้วเเละจะทำทันทีในสี่ปีข้างหน้า

"ขอชาว กทม.เขตหนองจอก-คลองสามวาพิจารณาสิ่งที่ปรากฏขึ้นในอดีตด้วยว่านักการเมืองจากพรรคอื่นๆที่เคยอาสาดูเเลประชาชนได้เปลี่ยนเเปลงคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นหรือไม่ คราวนึ้ขอโอกาสตนในฐานะคนรุ่นใหม่เเละอาสาสมัครสาธารณสุขที่มองปัญหาได้ทะลุบวกกับนโยบายพรรคที่วางไว้ในการดูเเละสุขภาพของคนไทย เพราะพรรคเเละตนพูดเเล้วทำไม่ขายฝัน วันที่14พ.ค. ขอคนละหนึ่งคะเเนนเเละชักชวนคนในครอบครัว กับการกาบัตรเลือกตั้งสองใบ ใบเเรกกาเบอร์7ให้พรรคได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใบที่สองกาเบอร์8ให้ตนได้รับโอกาสดูเเลประชาชนเขตนี้เพื่อทำในสิ่งที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริง" นิกม์กล่าวเเละว่า งานอาสาไม่ใช่อาชีพ เเละการเมืองนั้น งานส.ส.คืออาชีพที่มาจากคะเเนนของประชาชน หากประชาชนไว้วางใจ ตนจะสร้างโอกาสให้ประชาชนเขตนี้ในสี่ปีข้างหน้าให้ได้