นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหากตัวเลขผู้ป่วยโควิดยังเพิ่ม รัฐบาลมีแนวโน้มการจำกัดเวลาออกจากเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมง ว่ารัฐบาลต้องประเมินสถานการณ์ข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 และผลกระทบต่างๆ อย่างรอบด้านก่อน และในกรณีที่สถานการพัฒนาไปถึงขั้นที่ต้องเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงจริง รัฐบาลควรมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อรองรับประกาศคำสั่งที่จะออกมาดังนี้
1.สร้างความรับรู้เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงเพื่อให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงมาตรการที่จะออกมาและพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
2.เตรียมการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนโดยทั่วไปให้น้อยที่สุด
3.ช่วยเหลือดูแลประชาชนระดับฐานราก ที่หาเช้ากินค่ำซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตามสมควร
โดยกลุ่มคนที่รัฐบาลควรวางแผนล่วงหน้าที่จะต้องดูแลคือคนจนเมือง ที่หาเช้ากินค่ำ คนไร้บ้าน เร่ร่อนโดยเฉพาะคนที่อยู่ตามชุมชนแออัดทั้งใน กทม. และตามเมืองใหญ่ๆ ที่มีชุมชนเมืองทั่วประเทศ ซึ่งวิธีการที่รัฐบาลควรดําเนินการคือร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศออกสำรวจตรวจสอบว่ามีคนเข้าข่ายที่ต้องเข้าไปดูแลตรงไหนบ้าง จากนั้นควรเตรียมช่องทางหาถุงยังชีพที่มีข้าวสารอาหารแห้งหรืออาหารสำเร็จรูปที่ง่ายต่อการบริโภคแจกจ่ายให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ให้มีชีวิตอยู่ได้ในช่วงเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง
ตนเชื่อมั่นว่าถ้ารัฐบาลเตรียมความพร้อมล่วงหน้าดูแลกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาสอย่างจริงจังก็จะทำให้ทุกภาคส่วนของสังคมสามารถอยู่ร่วมกันพร้อมที่จะปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: