ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ออกจดหมายข่าวยินดีต่อการลงพื้นที่ของอธิบดีดีเอสไอ เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีการสังหารนักปกป้องสิทธิและการหามาตราการการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิฯของกลุ่ม แต่เสียดายไม่ได้พบนักปกป้องสิทธิฯ และกลุ่มอนุรักษ์ฯเพราะติดภารกิจเกี่ยวข้าว

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่  1 ต.ค. 2563 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่พบกับนักปกป้องสิทธิกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และต่อมาได้ประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นกลไกคุ้มครองนักปกป้องสิทธิในกรณีการขู่ฆ่า เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ฯ และกรณีการทวงคืนความยุติธรรมของนักปกป้องสิทธิฯ ชุมชน ที่ถูกสังหารไปแล้วก่อนหน้านี้สี่ราย ได้แก่ บุญรอด ด้วงโคตะ นายสนั่น สุวรรณ ถูกสังหารปี พ.ศ. 2538 สม หอมพรมมา และ ทองม้วน คำแจ่ม ถูกสังหารปี พ.ศ. 2542

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.บรรยวัสถ์ ไตรสุทธิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 ว่าในวันที่ 25 พ.ย.2563 เวลา 10.00 น. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมคณะจะลงพื้นที่กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ -ผาจันได ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยประสงค์จะพบกับครอบครัวของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั้ง 4 ราย และ เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่- ผาจันไดที่ถูกคุกคาม ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นทางการให้ทราบว่า ไม่สะดวกที่จะพบเนื่องจากติดภาระกิจการเกี่ยวข้าวและอื่นๆและขอให้มาเจอในวันที่ 7-8 ธ.ค. 2563 แทน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันในข้อเสนอดังกล่าว

ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ รู้สึกยินดีที่หลังจากร่วมกันยืนหยัดต่อสู้ 26 ปีที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านการทำเหมืองหินที่ไม่ชอบด้วยกระบวนการทางกฎหมาย และทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้ที่ถูกสังหารจากการคัดค้านเหมืองโดยปราศจากการการใส่ใจจากหน่วยงานงานรัฐใดๆ ในที่สุด กรณีของกลุ่มอนรักษ์ฯ ก็ได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐเช่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่พวกเราหวังว่าจะเป็นกลไกในการคืนความยุติธรรมที่บัดนี้ยังไม่เคยได้รับมาตลอดให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและชุมชนได้

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง ที่การลงพื้นที่ครั้งนี้ของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นไปโดยมิได้ปรึกษาหารือร่วมกันกำหนดวันที่ชุมชนและวันที่นักปกป้องสิทธิฯ ชุมชนสะดวก ทำให้พลาดโอกาสในการที่ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้พบกับครอบครัวของนักปกป้องสิทธิฯที่ถูกสังหารสี่ราย สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ พร้อมกันกับนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ฯ และนักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงและภัยคุกคามถึงขั้นเอาชีวิต

โดยทางดีเอสไอจะยังคงกำหนดการเดิมที่จะลงพื้นที่ในวันที่ 25 พ.ย.256 3 ทางกลุ่มหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้รับข้อมูลที่เที่ยงตรง เป็นธรรม และเป็นประโยชน์จากหน่วยงานที่จะหารือ ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 ดีเอสไอ ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภูและ สภ.สุวรรณคูหา

หวังว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่อีกครั้งตามที่กลุ่มเสนอไป เพื่อได้มีโอกาสในการพบปะกับครอบครัวของผู้ที่ถูกสังหารและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆที่มีความเสี่ยงเพื่อร่วมหารือประเด็นการทวงคืนความยุติธรรมให้กับ 4 ศพ ดงมะไฟ และหามาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิในแนวทางการร่วมหารือ รับฟังที่เคารพความประสงค์ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือเป็นหลักการและแนวปฏิบัติขั้นแรกสุดของการงานเพื่อปกป้องนักปกป้องสิทธิมนุษยชน