สุเทพ เทือกสุบรรณ
ศาลให้ 9 อดีต กปปส.ประกันตัว ห้ามออกนอกประเทศ
หลังอัยการได้นำอดีตแกนนำ กปปส. ยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญา ในข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นกบฏ และก่อการร้ายจากการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระหว่างปี 2556 - 2557 โดยทนายความของ 9 อดีตแกนนำ กปปส. ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันภัย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด คนละ 800,000 บาท รวม 7.2 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้ง 9 คนได้ประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งหมดออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีจำเลยจำนวนมากเพื่อให้กระบวนพิจารณาเป็นไปโดยปราศจากอุปสรรค จึงเห็นสมควรกำหนดเงื่อนไขกับจำเลยซึ่งได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา ดังนี้
1.ให้จำเลยดำเนินการแต่งตั้งทนายความเป็นที่เรียบร้อยก่อน หรือในวันนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี ตรวจพยานหลักฐาน 2.กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ –จำเลย ให้ถือวันนัดของศาลเป็นหลักสำคัญ หากทนายความจำเลยติดภารกิจหรือเจ็บป่วย ก็ให้จำเลยแต่งตั้งทนายความคนใหม่ ศาลจะไม่ให้อนุญาตให้เลื่อนคดีเพราะเหตุขัดข้องเรื่องทนายความ และศาลจะถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางประวิงคดีอันเป็นอุปสรรคแก่การดำเนินคดีในศาล ที่ศาลจะมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับการสั่งปล่อยชั่วคราว
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เปิดเผยภายหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวว่า การสั่งฟ้อง ไม่เกินความคาดหมาย เพราะต้องใจมารับฟัง และสู้คดี โดยตระหนักถึงการเป็นคนไทย เคารพกระบวนการยุติธรรมไทย ไม่ว่าสุดท้ายผลของคดีจะออกมาถูก หรือ ผิด ก็พร้อมต่อสู้ด้วยพยานหลักฐาน ที่จะรวบรวมมาต่อสู้คดี โดยเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
"วันที่ตัดสินใจออกมาชุมนุม ได้ร่วมกันใคร่ครวญแล้วว่า จะต่อสู้ร่วมกับประชาชน แม้สุดท้ายต้องถูกดำเนินคดี ปณิธานหลังจากนี้ จะยังคงเดิม สู้ต่อไปเพื่ออนาคตประเทศไทย ยืนหยัด ผลักดันเรื่องการปฏิรูป ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม แม้จะต้องแพ้ และถูกลงโทษ พร้อมรับ เพราะตัดสินใจแล้ว และถือว่า การกระทำที่ผ่านมา คุ้มค่าแล้ว" นายสุเทพ ระบุ
นายสุเทพ ยังมองว่า แนวร่วม กปปส. คนอื่นๆ ไม่ควรถูกฟ้องร่วมด้วย เพราะแกนนำทั้ง 9 คนที่ถูกฟ้องวันนี้ เป็นคนริเริ่ม คนอื่นๆ เป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุม และขึ้นไปบนเวที ส่วนการต่อสู้คดีจะใช้ทนายความของสภาทนายความดดยหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังรู้สึกภูมิใจที่ร่วมเป็นกำลังกับมวลมหาประชาชนต่อสู้เพื่อชาติและแผ่นดิน เพราะถ้าไม่สู้ในวันนั้นประเทศจะต้องอยู่ภายใต้การใช้อำนาจขัดหลักนิติรัฐนิติธรรมต่อไป ถือว่าการต่อสู้ครั้งนั้นเป็นการหยุดภาวะเลวร้ายทางการเมือง หลังจากนี้ ยังมีภาระร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต่อไป
นายสุเทพ บอกว่า กปปส. ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบรัฐบาล และ กปปส. ไม่ได้เรียกร้องให้ คสช .ยึดอำนาจ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็เห็นความตั้งใจในการปฏิรูปด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเมือง ที่มีการเขียนรัฐธรรมนูญกำหนดกรอบ ทิศทางเอาไว้ชัดเจน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
