ไม่พบผลการค้นหา
คนนับล้านทั่วโลกกำลังเฝ้ารอชมงานพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี พระโอรสในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และเมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวชาวอเมริกัน พระคู่หมั้น ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

งานพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮรรีและเมแกน มาร์เคิล จะจัดขึ้นที่วิหารเซนต์จอร์จของพระราชวังวินด์เซอร์ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 11:00 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีในโบสถ์ เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิล จะทรงพระยศ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์

หลังจากนั้น เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาจะประทับรถม้าเปิดประทุนเสด็จรอบเมืองวินด์เซอร์ เพื่อทักทายประชาชนที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ก็มีประชาชนหลายร้อยคนที่ออกมาจับจองที่นั่งบริเวณรอบๆ ถนนที่ขบวนรถม้าจะเสด็จผ่าน เพื่อจะได้มีที่นั่งเป็นจุดชมการเสด็จผ่านที่ดีที่สุด และยังมีคนทั่วโลกอีกหลายล้านคนที่รอชมการถ่ายทอดสดงานพิธีเสกสมรสครั้งนี้

awd02.jpg

พิธีเสกสมรสครั้งนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ จะทรงเป็นผู้ส่งตัวเจ้าสาวเข้าโบสถ์ แทนพ่อของเมแกน มาร์เคิล ที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะเหตุผลด้านสุขภาพ ด้านเจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน มาร์เคิล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่าทั้งคู่รู้สึกค่อนข้างผ่อนคลายและรู้สึกดีกับงานพิธีเสกสมรสที่กำลังจะเกิดขึ้น 

สำนักพระราชวังอังกฤษได้เชิญแขกผู้มีเกียรติ 2,640 คนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเสกสมรสครั้งนี้ ซึ่งนอกเชื้อพระวงศ์และบุคคลสำคัญในรัฐบาลอังกฤษแล้ว ยังมีการเชิญประชาชนทั่วไป ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้นำการเคลื่อนไหวทางสังคม ตัวแทนองค์กรการกุศล และนักเรียนจากโรงเรียนในเขตพระราชวังวินด์เซอร์มาเข้าร่วมงานด้วย 

ด้านบริษัท Bride Book บริษัทจัดงานแต่งงานของอังกฤษ ประเมินค่าใช้จ่ายงานพิธีเสกสมรสในครั้งนี้ว่าน่าจะอยู่ที่ 32 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,480 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยของงาน ทั้งนี้ทางสำนักพระราชวังของอังกฤษประกาศว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในโบสถ์ ค่าวงดนตรีในงาน ค่าดอกไม้ ค่าตกแต่งสถานที่ รวมไปถึงค่างานเลี้ยงฉลองหลังจากพิธีเสกสมรส และมีรายงานว่าเมแกนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าชุดเจ้าสาวด้วยตนเอง 

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยที่มีการประเมินว่าจะสูงถึง 30 ล้านปอนด์หรือมากกว่านั้น ทางรัฐบาลอังกฤษเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวมาจากภาษีของประชาชน

ภาพ: AFP