ไม่พบผลการค้นหา
"มารีญา" แสดงความมั่นใจว่า ปีนี้เป็นปีของประเทศไทย เราจะเป็นที่จับตามองของประเทศต่างๆ แน่นอน สิ่งที่เธอคาดหวังที่สุดคือให้ประเทศไทยภูมิใจในตัวเธอ และอยากให้คนไทยมีความสุขกับการประกวดครั้งนี้

การประกวดนางงามจักรวาลปี 2017 เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยปีนี้คือ นางสาวมารีญา พูลเลิศลาภ เธอเป็นตัวเก็งแบบม้วนเดียวจบ ตั้งแต่การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2560 ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนทั้งความสวย ความรู้ ความสามารถ แต่ก็มีบางเสียงติติงเรื่อง "เค้าโครงหน้าแบบฝรั่ง ที่ขาดความเป็นไทย" ซึ่งมารีญากลับเห็นว่า สิ่งที่มองเห็นเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก หากได้รู้จักตัวตน ได้พูดคุย จุดแข็งของเธอคือ "ความเป็นไทย" 

มารีญา เป็นลูกครึงไทย-สวีเดน เข้าสู่วงการนางแบบเมื่ออายุ 13 ปี ด้วยความสูง 184 เซนติเมตร เธอถ่ายแบบกับนิตยสารชั้นแนวหน้ามาแล้วเกือบทุกฉบับ จากนั้นปี 2555 "มารีญา"ก้าวเข้าสู่วงการ"เพลง" เป็น"นักร้อง" ค่ายสมอลล์รูม ออกผลงาน "Maxi Single" มีเพลงที่ติดหู เช่น บุ๋ง,เบลอ ,เก็บโต๊ะ  แม้จะเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่ออายุยังน้อย แต่มารีญาก็แบ่งเวลาเรียนจนจบการศึกษาระดับปริญาโทด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยสต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยมีประสบการณ์ทำงานด้านการตลาดทั้งที่ประเทศสวีเดน และประเทศไทย

ด้วยวัย 25 ปีและผ่านงานมาแล้วอย่างหลากหลาย แต่ในที่สุด "มารีญา" ก็ตัดสินใจอย่างกะทันหันที่จะเข้าเวทีสู่การประกวดนางงาม โดยมุ่งไปที่เวทีมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ ที่จะเป็นบันไดให้เธอก้าวไปสู่การประกวด "นางงามจักรวาล" 

ตัวตนและความคิดของมารีญา พูลเลิศลาภ

ในวีดีโอของกองประกวดนางงามจักรวาลที่ "มารีญา พูลเลิศลาภ" นางงามจากประเทศไทย ใช้แนะนำตัวผ่านสื่อด้วยเวลา 56 วินาที เธอบอกเล่าว่า "เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาโทเมื่อปีที่แล้ว เป็นจุดเปลี่ยน เพราะรู้สึกว่าไม่มีจุดหมายในชีวิต ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป แต่การไม่รู้จักตัวตนในช่วงเวลานั้น ก็ทำให้เธอตระหนักว่าต้องการเข้าสู่เวทีการประกวดนางงามจักรวาล "

ปัญหาหนึ่งที่ประเทศไทยเผชิญ คือ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ โดยส่วนตัวเธอสนใจปัญหา"การตั้งครรรภ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่น"เพราะทำให้สูญเสียโอกาสในชีวิต เธอจึงต้องการจะนำวัยรุ่นกลุ่มนี้กลับคืนสู่สังคม ให้ได้รับโอกาสด้านการศึกษาเพื่อเดินตามความฝันของพวกเธอ"

มารีญา ถูกมองว่ามีจุดเด่นในการให้สัมภาษณ์ตั้งแต่การประกวดมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ เพราะสามารถประมวลความคิดมานำเสนอได้อย่างแหลมคม โดยเฉพาะเมื่อใช้ "ภาษาอังกฤษ" ในการสื่อสารยิ่งทำให้เธอมีความโดดเด่นในเวทีระดับสากล

ก่อนเดินทางเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล "มารีญา" ให้สัมภาษณ์ The Standard ว่า การมายืนในจุดนี้ทำให้มีโอกาส"พูด" ในสิ่งที่อยาก"พูด" และ "เสียงดัง" กว่าวันแรกที่เข้ามาประกวดนางงาม โดยประเด็น "ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร" ที่เธอเคยพูดในเวทีประกวดมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติ คือ United Nation Population Fund หรือ UNFPA ทำให้รู้เรืองสิทธิสตรี และความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น

คลิปวีดีโอของสาวงามที่เข้าประกวดจะได้รับการเผยแพร่ไปหลายช่องทาง เช่น เฟซบุค ทวิตเตอร์ น่าจะมีผลต่อการโหวตที่จะเริ่มเปิดให้โหวตอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายน ผ่านทาง www.missuniverse.com และทาง "ทวิตเตอร์" โดยใช้ 2 แฮชแท็ค คือ #MissUniverse #Thailand

จับตาตัวเก็งจากกระแสโซเชียล มีเดีย 

ก่อนที่กองประกวดนางงามจักรวาลจะเปิดโหวตอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายน มีการโหวตวัดกระแสในโซเชียล มีเดียนำร่อง ปรากฎว่าในช่วงแรก กระแสความนิยมของ "มารีญา" ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยอยู่อันดับที่ 2 รองจาก"นางงามโคลัมเบีย"



วิธีการโหวต miss universe.jpg

(ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/p/Bblfittj8H1)

ในเว็ป US.blastingnews.com มีคอลัมนิสต์รายหนึ่งเขียนถึงเวทีการประกวดนางงามจักรวาล โดยกล่าวถึง "มารีญา พูลเลิศลาภ"ว่า เป็นหนึ่งในสาวงามที่มีความโดดเด่น จากยอด Like กว่า 150,000 ไลค์ในโซเชียล มีเดีย สาวงามวัย 25 ปีจากประเทศไทยคนนี้ จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการตลาด มีความพึงพอใจที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ด้วยการเรียนรู้"ความหลากหลายทางวัฒนธรรม" ประเด็นที่เธอสนใจเป็นพิเศษ คือ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่น ในประเทศไทย

ในมุมมองของคอลัมนิสท์รายนี้ ยังเห็นว่า มีสาวงามอีกหลายประเทศที่มีความโดดเด่น เช่น นางงามอินโดนีเซีย นางงามบราซิล นางงามนิคารากัว นางงามฟิลิปปินส์ นางงามเยอรมัน และนางงามโคลัมเบีย

หากมองย้อนกลับไปที่การประกวดนางงามจักรวาลปีที่แล้ว "น้ำตาล" ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ที่ได้เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ได้รับคะแนนโหวตผ่านโซเชียล มีเดียมากเป็นลำดับต้นๆ จุดเด่นของ"น้ำตาล ชลิตา" คือความสวยในแบบเอเซีย ตาคม ผมยาว ผิวสีน้ำผึ้ง ใกล้เคียงกับ "แนท" อณิพรณ์ เฉลิมบูรณวงศ์ ที่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย และได้รับรางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมในการประกวดปี 2015 



น้ำตาล_resize.jpg

ที่น่าสนใจคือ มารีญา ยอมรับว่า "แนท อณิพรณ์" เป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจประกวดเวทีมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ พร้อมกับได้รับคำแนะนำจากนางงามรุ่นพี่ว่าการเดินบนเวทีประกวดนางงาม แตกต่างจากการเดินบนเวทีนางแบบ

สำรวจเสื้อผ้า-หน้า-ผมของ มารีญา 

ต้องยอมรับว่าการเป็นนางแบบอาชีพมาก่อนของ "มารีญา" ทำให้เธอมีความจัดเจนกับการเดินบนเวที แม้ว่าจะมีจังหวะที่ต่างกันระหว่างการเดินบนเวทีนางงามกับ เวทีนางแบบ แต่"ประสบการณ์" บนเวทีสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันหากเข้าสู่รอบลึก ๆ

ประสบการณ์จากการเป็น "นางแบบ"ยังทำให้"มารีญา" มีความสัมพันธ์ที่ดีกับดีไซเนอร์ไทย และรู้จักวิธี Present ที่ทำให้ทั้ง "ผู้สวมใส่" และ"เสื้อผ้า" โดดเด่นพอๆ กัน ก่อนเดินทางไปประกวด มีการเปิดตัว"ชุดราตรี" 3 ชุด จากดีไซเนอร์ไทย 3 แบรนด์ดัง คือ Sirivannavari ,Poem และ Asava จุดเด่นคือ ทั้ง 3 แบรนด์เลือกใช้ "ผ้าไหมไทย" ในการตัดเย็บ เป็นการส่งเสริมการใช้ผ้าไหมไทยในโครงการศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9  



ชุดราตรี มารีญาชุดราตรี มารีญาชุดราตรี มารีญา

ส่วนชุดแต่งกายประจำชาติของไทยปีนี้เป็นชุด "เมขลาล่อแก้ว" ผลงานการออกแบบของ ประภากาศ อังศุสิงห์ ได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง "เมขลารามสูร" มีตำนานว่า นางเมขลามีแก้วประจำตัว รามสูรพอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลา จึงเที่ยววิ่งไล่จับนาง เมื่อจับไม่ทันก็ใช้ขวานขว้าง แต่ไม่ถูกเพราะเมขลาใช้แก้วล่อจนเป็นฟ้าแลบ แสงแก้วทำให้รามสูรตามัวขว้างขวานไม่ถูก

นอกจากความประณีตบรรจงของชุดแต่งกายประจำชาติ "มารีญา" ยังต้องโชว์ท่วงท่าการร่ายรำในระหว่างการสวมชุด"เมขลาล่อแก้ว"ด้วย



ชุดประจำชาติ มารีญา

ในการประกวดชุดแต่งกายประจำชาติ บนเวทีนางงามจักรวาล ถือว่าประเทศไทยทำได้ดี ตีโจทย์คณะกรรมการให้คณะแนนได้ถูกจนคว้ารางวัล"ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม" หลายปีต่อเนื่องกันโดยเฉพาะหลังปี 2000 เริ่มจากปี 2005 "ชนันท์ภรณ์ รสจันทร์"คว้ารางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยียมมาครองได้สำเร็จ  ปี 2008 "กวินตรา โพธิจักร" คว้ารางวัล จากชุด "Spirit of Fighting" อีก 2 ปีถัดมา "ฝนทิพย์ วัชรตระกูล " คว้ารางวัลจากชุด "สยามไอยรา" และล่าสุดปี 2015 "อณิพรณ์ เฉลิมบูรณวงศ์" คว้ารางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมจากชุด "ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์"

แต่การประกวดชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมถือว่ามีความท้าทายมากขึ้นทุกปี เพราะคู่แข่งโดยเฉพาะในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนารูปแบบและนำศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์มานำเสนอผ่านการออกแบบชุดแต่งกายได้อย่างมีสีสัน เชื่อว่าหลายคนคงยังจำชุด "ละครหุ่นเมียนมา" หรือ Yoke Thay ที่มีน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม เป็นการรวมตัวของประติมากรรม จิตรกรรม เสื้อผ้า การเย็บปักถักร้อย นำเสนอได้อย่างละเมียดละไม ปราณีตบรรจง จนคว้ารางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมบนเวทีนางงามจักรวาลปี 2016 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี



ชุดประจำชาติ พม่า 2016

ส่วนชุดแต่งกายประจำชาติของเมียนมาในปีนี้ ก็ยังคงนำเสนอแนวคิดความยิ่งใหญ่ อลังการไว้เหมือนเดิม โดยเฉพาะถ้าคำนวณจาก"น้ำหนัก" ไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว การจะชนะใจคณะกรรมการหรือไม่ขึ้นอยู่กับ การนำเสนอแนวคิดที่ต้องแตกต่างจากปีก่อน และยังต้องแข่งขันกับ"คู่แข่ง" จากภูมิภาคเดียวกัน ที่มีรากเหง้าทางศิลปวัฒนธรรมโดดเด่นเหมือนกัน

แม้"มารีญา" จะออกตัวว่ามีเวลาเตรียมตัวสำหรับการประกวดนางงามจักรวาลไม่มาก แต่ด้วยคุณสมบัติที่ผ่านการบ่มเพาะเป็นเวลายาวนาน ทำให้เธอมีความได้เปรียบคู่แข่งตั้งแต่ในเวทีการประกวดภายในประเทศ  เธอยอมรับว่าต้อง ฝึกตอบคำถามจากการศึกษาคลิปเก่า ๆ และการฝึกสมาธิผ่านการปฏิบัติธรรม เพรา "สมาธิ" เป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันและความตื่นเต้นเมื่ออยู่บนเวที

"มารีญา" ให้คำนิยามของ "Miss Universe" ว่า เป็นมาก���ว่า "ผู้หญิงคนหนึ่ง" แต่เป็น "แสงสว่าง" "เสียง" และ"แรงบันดาลใจ"ให้กับคนที่ยังไม่มี"เสียง" ให้เชื่อมั่นในตัว "Miss Univese"

ในบทสัมภาษณ์ของ The Standard "มารีญา" แสดงความมั่นใจว่า ปีนี้เป็นปีของประเทศไทย เราจะเป็นที่จับตามองของประเทศต่างๆ แน่นอน สิ่งที่เธอคาดหวังที่สุดคือให้ประเทศไทยภูมิใจในตัวเธอ และอยากให้คนไทยมีความสุขกับการประกวดครั้งนี้ โดยเธอตั้งใจอยากนำ"ความสุข" กลับมาพร้อม"มงกุฎ"เพื่อมอบให้กับคนไทยทุกคน

มาร่วมให้กำลังใจ"มารีญา" ทำตามความฝันที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ... ก้าวสู่ตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 3 ของประเทศไทยไปพร้อมๆกัน