นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการเจรจาระหว่างเขาและนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออาจเกิดขึ้นภายใน 3- 4 สัปดาห์นับจากนี้ และจะเป็นการพบกันครั้งสำคัญเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี แต่นายทรัมป์ย้ำว่า เขาพร้อมจะเดินออกจากโต๊ะเจรจาได้ทุกเมื่อ หากการเจรจาไม่ได้ผลที่น่าพอใจ นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังเล่าว่า เขาได้พูดคุยกับนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายมุนแจอินได้ยกเครดิตทั้งหมดให้นายทรัมป์สำหรับความคืบหน้าในการเจรจากับเกาหลีเหนือ
ขณะที่แถลงการณ์สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า นายมุนแจอินและนายทรัมป์เห็นพ้องกันว่า "การตัดสินใจครั้งใหญ่ของนายทรัมป์" มีส่วนช่วยให้เกิดการเจรจาทางการทูตอย่างมาก
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับผู้นำเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยาง และการเจรจาก็เป็นไปด้วยดี นายคิมจองอึนพร้อมดำเนินการไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา นายคิมจองอึนได้กลายเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่ข้ามชายแดนไปยังเกาหลีใต้ นับตั้งแต่การมีการแยกประเทศในปี 1953 โดยนายคิมจองอึนและนายมุนแจอินได้ลงนามประกาศยุติสงครามอย่างเป็นทางการ เปิดศักราชแห่งสันติภาพ พร้อมตกลงร่วมกันปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปและอาวุธนิวเคลียร์ ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยืนยันว่าจะไม่ปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยอ้างว่าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันตัวเองจากการคุกคามของสหรัฐฯ จึงมักตั้งเงื่อนไขว่าจะปลอดอาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อกองทัพสหรัฐฯ ถอนทัพออกจากเกาหลีใต้ก่อน หรือให้เกาหลีใต้ถอนการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทาดของสหรัฐฯ ออกก่อน เป็นต้น