นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองที่สูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือนม.ค. – เม.ย.ของทุกปี โดยสาเหตุเกิดจากการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำการเกษตร รวมทั้งอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการใช้ยานพาหนะที่ระบายมลพิษเกินมาตรฐานในเขตเมือง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 คพ. ได้จัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพการบังคับใช้กฎหมายในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการดำเนินงานตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้ยานพาหนะที่ระบายมลพิษเกินเกณฑ์มาตรฐานโดยเฉพาะควันดำจากรถยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นมาตรการทางกฎหมายที่จะบังคับให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ไม่อาจนำรถยนต์ที่มีมลพิษเกินมาตรฐานมาใช้ในทาง จนกว่าจะได้มีการแก้ไขปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์ และให้มีการระบายมลพิษอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
นางสุณี กล่าว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค. – เม.ย. 2561 คพ. ได้ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งด่านตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ที่ระบายควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานเดือนละ 1 สัปดาห์ โดยที่ผ่านมาได้สุ่มตรวจรถไปทั้งหมด จำนวน 363 คันพบควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 46 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 12.5 และออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวตามพรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พร้อมต้องชำระค่าปรับตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 อีก 500 บาท
นางสุณี กล่าวว่า นอกจากการตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ที่ระบายควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานและบังคับใช้กฎหมายแล้ว คพ. ต้องขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะ ในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องยนต์ ให้อยู่ในสภาพปรกติ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ ให้คุณภาพอากาศดีขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน