โดยการประชุม เริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. เริ่มต้นด้วยการเสนอชื่อว่าที่หัวหน้าพรรค แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ชนะการหยั่งเสียง ขณะที่ผู้แพ้ทั้งสองคน คือ นายอลงกรณ์ พลบุตร และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ขอถอนตัว แต่ข้อบังคับพรรคจำเป็นต้องเสนอชื่อทั้ง 3 คน เพื่อให้สมาชิกลงคะแนนรับรอง ผ่านเครื่องลงคะแนน 60 เครื่อง ซึ่งเมื่อได้หัวพรรคแล้วจะมีการเสนอชื่อรองหัวหน้าพรรค 13 คน แบ่งเป็นรองหัวหน้าพรรค 5 คน รองหัวหน้าภาค /รองหัวหน้าภารกิจ 8 คน รวมไปถึงคัดเลือกคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง 11 คน ตามข้อบังคับพรรคและตามคำสั่ง คสช. 

นายจุลินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รักษาการหัวพรรค ดำเนินการชี้แจงวาระการประชุม ยืนยันว่า การเลือกตั้งหัวพรรค ต้องคำนึงถึงการหยั่งเสียงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้รับเลือกให้นั่งหัวหน้าพรรคต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในวันนี้ (11 พ.ย.) พรรคได้แต่งตั้ง กรรมการ กกต. มาดำเนินการ โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน และอื่นๆรวม 11 คน ทำหน้าที่ จากนั้น สมาชิกพรรค ได้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ นายแพทย์วงรค์ นายอลงกรณ์ ซึ่งทั้งนายอลงกรณ์ และนพ.วรงค์ ได้ขอถอนตัว ขณะที่สมาชิกพรรค ได้รับรองนายอภิสิทธ์ เป็นหัวหน้าพรรค คนที่ 8 อีกสมัย

ด้าน นพ.วรงค์ เปิดเผยว่า พร้อมสนับสนุนนายอภิสิทธ์ หลังได้รับการชนะการหยั่งเสียง และเชื่อมั่นว่า นายอภิสิทธิ์ จะนำพรรคไปสู่ชัยชนะการเลือกตั้ง ได้ พร้อมกันนี้ได้ขอโทษทุกคนที่อาจก้าวล่วง ในช่วงที่ลงหาเสียงชิงสมัครหัวหน้าพรรค และย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบ้านที่ใหญ่ ที่มีการคลายล็อคแล้ว และเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรวมมากที่สุด 

สำหรับบรรยากาศการประชุม เป็นไปอย่างคึกคัก แม้จะผ่านการหยั่งเสียงหัวพรรคไปเมื่อวาน (10 พ.ย.) แต่ทั้งสามคนที่สมัครชิงหัวหน้าพรรค ทั้งนายอภิสิทธิ์ นพ.วงรค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร ก็ทักทายกันอย่างเป็นกันเอง รวมถึงสมาชิกที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้มาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน