ความพร้อมของพรรคการเมือง ต่างจัดแถวตรวจสอบอดีต ส.ส.ของพรรค มีการย้ายค่ายจนนิ่งสนิทเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดดไลน์เกณฑ์บังคับให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมืองภายใน 90 วัน

ที่ฮือฮาก็หนีไม่พ้น 21 อดีตส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย ย้ายขั้วเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งถูกมองว่าเป็น "สามัคคีธรรม 2" มาพร้อมกับคำประกาศว่า "รัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อเรา" ที่ออกจาก 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' แกนนำสามมิตร

พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์ "ทหารราบ" เดินหน้าเก็บคะแนนเสียง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และหวังเก็บส้มหล่นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยเตรียมร่วมกับ "พรรค ส.ว." ที่ลากตั้งโดย คสช. จำนวน 250 คน ซึ่งเตรียมพร้อมชูมือโหวตเลือก "นายกฯ คนเดิม" 

'วอยซ์ออนไลน์' เจาะข้อมูลสถิติการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2554

โดยสำรวจคะแนนเสียงอดีต ส.ส. 21 คนจากพรรคเพื่อไทย ที่พลิกขั้วไปร่วมอุดมการณ์กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเครือข่ายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

• พลังดูด 14 เขต ฐานเสียงแลนด์สไลด์ ชนะถล่มทลายทะลุหลักหมื่น 

กลุ่มแรก “ดีหนึ่งประเภทหนึ่ง” พบว่า มี 14 คน ที่เคยมีคะแนนชนะทิ้งห่างหลักหมื่นคะแนน 

1.นายวันชัย บุษยา อดีต ส.ส.เลย เขต 4 เพื่อไทย 48,961 เสียง ชนะ 22,905 เสียง

2.นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 4 เพื่อไทย 45,018 เสียง ชนะห่าง 13,062 เสียง

3.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีตส.ส.นครราชสีมา เขต 7 เพื่อไทย 44,296 เสียง ชนะห่าง 21,194 เสียง

4.นายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เขต 4 เพื่อไทย 66,901 ชนะห่าง 50,879 เสียง

5.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีตส.ส.สระแก้ว เขต 2 เพื่อไทย 64,161 เสียง ชนะห่าง 42,849 เสียง

6.นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว เขต 1 เพื่อไทย 64,089 เสียง ชนะห่าง 39,168 เสียง

7. นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี เขต 3 เพื่อไทย 62,091 เสียง ชนะห่าง 36,962 เสียง

8.นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี เขต 6 เพื่อไทย 50,966 เสียง ชนะห่าง 15,269 เสียง

9.นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม เขต 4 เพื่อไทย 50,609 เสียง ชนะห่าง 28,670 เสียง

10. นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 4 เพื่อไทย 48,416 เสียง ชนะห่าง 27,633 เสียง

11.นายจักรัตน์ พั้วช่วย อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 2 เพื่อไทย 40,677 ชนะห่าง 15,327 เสียง

12.นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 5 เพื่อไทย 46,896 เสียง ชนะห่าง 16,143 เสียง

13. นายเอี่ยม ทองใจสด อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 6 เพื่อไทย 48,129 เสียง ชนะ ห่าง 14,445 เสียง

14.น.ส.ปาริชาติ ชาลีเครือ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ เขต 3 เพื่อไทย 45,583 เสียง ชนะห่าง 27,456 เสียง 

(ฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว)

• 7 เขตสวิงโหวตเฉือนชนะ หลักร้อย-พัน  

ส่วนอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย 7 คน ใน 7 เขตเลือกตั้ง จัดเป็นประเภท “สวิงโหวต” ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554

เพราะคะแนนเสียงนั้นห่างกันเพียงหลักพันและบางเขตเพียงหลักร้อยเท่านั้น ซึ่งสามารถพลิกโผเกิดเรื่องไม่คาดฝันกลายเป็น “ผู้แพ้” หรือแม้แต่ ‘ผู้ชนะ’ ได้ตลอดเวลา

1.นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย เขต 1 เพื่อไทย 38,049 เสียง ชนะเพียง 3,460

2. นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีตส.ส.เลย เขต 3 เพื่อไทย 34,835 เสียง ชนะเพียง 701 เสียง

3.นายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เขต 5 เพื่อไทย 37,573 เสียง ชนะเพียง 2,702 เสียง 

4.นายไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 เพื่อไทย 44,064 เสียง ชนะเพียง 3,410 เสียง

5.นายปริญญา ฤกษ์หร่าย อดีต ส.ส.กำแพงเพชร เขต 4 เพื่อไทย 46,253 เสียง ชนะเพียง 9,454 เสียง

6.นายอนันต์ ผลอำนวย อดีต ส.ส.กำแพงเพชร เขต 3 เพื่อไทย 35,512 ชนะเพียง 3,460 เสียง

7. พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 เพื่อไทย 33,501 เสียง ชนะเพียง 169 เสียงเท่านั้น

(ไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร ผู้มีฐานเสียงที่ชนะเลือกตั้งหลักพัน)

• 21 เขต รวม 9.9 แสนเสียงมอบให้ 'พลังประชารัฐ' ?

เมื่อรวมคะแนน “21 อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย” ในเสื้อคลุมพรรคพลังประชารัฐ จาก 11 จังหวัด 21 เขต จะพบว่ามีคะแนนรวมกันเป็นฐานเสียง 996,580 คะแนน

หากเสียงขั้นต่ำ ส.ส. 1 คน เท่ากับ 75,000 เสียง จะพบว่าภาพรวมของพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูดอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นั้นสามารถคว้า ส.ส. 13 เก้าอี้

หากลงรายพื้นที่ 7 เขต “สวิงโหวต” ถือว่า 50 – 50 ที่จะเป็นทั้ง ส.ส.สอบได้ และ สอบตก

ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่ พรรคพลังประชารัฐ อาจมี ส.ส.ไม่ต่ำก่วา 10 ที่นั่ง อาจเป็นจริง หากไม่เกิดกระแส แลนด์สไลด์เทคะแนนถล่มทลายอย่างพลิกแผ่นดินให้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม

• บทพิสูจน์ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว พปชร. ขอแลนด์สไลด์?

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ไม่หวั่นกระแสพลังดูด ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าคอก ‘พลังประชารัฐ’ โดยย้ำว่า พรรคเพื่อไทยได้เตรียมคนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแทนไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้พรรคเพื่อไทยมีคนดีมีความสามารถและมีอุดมการณ์ที่พร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. มากเกินกว่าเขตที่มีด้วยซ้ำ

หากย้อนไปการเลือกตั้ง ปี 2550 หรือปี 2554 ทุกการเลือกตั้ง พรรคดีเอ็นเอ ไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น พลังประชาชน หรือ เพื่อไทย ก็ยังคงได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 แม้จะถูกกระแสดูด ส.ส.ไปอยู่พรรคการเมืองอื่น

เพียงแต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะได้เสียงส.ส.ถึง 350 เสียงตามที่ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ประกาศไว้หรือไม่!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'ภูมิธรรม'เผย 'เพื่อไทย' โดนดูด ส.ส.เขต 28 คน จี้ 'ประยุทธ์' เปิดหน้าเล่นการเมือง
• อภินิหารพลังดูด 51 ส.ส. - ตรวจชื่อ 27 ส.ส. 'เพื่อไทย' ซบอก 'พปชร.'