ไม่พบผลการค้นหา
'แพทองธาร' ย้ำ การนิยามความหมายคำว่า Soft Power เป็นเรื่องสำคัญน้อยสุดตอนนี้ ชี้รัฐเร่งสร้างรายได้ให้ประเทศ นำไอเดียภาคเอกชนมาร้อยเรียง-บอกต่

วันที่ 12 ธ.ค. ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ หรือ BACC แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน 'Youth Power ขับเคลื่อน Soft Power' พร้อมด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ฯ และ ภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดย แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อทราบถึงโครงการของ Youth in Charge ถือว่าเป็นแนวทางเดียวกับที่รัฐบาลทำอยู่ และมีประสบการณ์มากกว่ารัฐบาลด้วย เพราะริเริ่มมาก่อน จึงเป็นเรื่องดีที่จะได้มาแลกเปลี่ยนกัน นโยบาย Soft Power ของรัฐบาลนั้น รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่อง แต่ต้องการความเชี่ยวชาญในหลายๆ ด้านจากภาคเอกชน รัฐบาลจะเป็นผู้ส่งเสริมไอเดียที่ดีของเอกชน ที่รู้ปัญหา รู้วิธีการขับเคลื่อน มาช่วยกันหารายได้เข้าประเทศให้ได้มากที่สุด

"ดิฉันคิดว่าเรากำลังติดอยู่กับคำว่า Soft Power คืออะไร แข่งกันนิยาม ว่าคือสิ่งนั้นสิ่งนี้ อยากจะบอกว่า การนิยามคำว่า Soft Power เป็นสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด ณ เวลานี้" แพทองธาร กล่าว

แพทองธาร กล่าวต่อไปว่า คำว่า Soft Power ถูกพูดกันมาในระยะเวลาประมาณ 40 ปีนี้ คำนี้เริ่มมาจากทางการทูตเป็นสำคัญ ตอนนี้ถูกบิดมาใช้ในเชิงเศรษฐกิจมากขึ้น เราก็ไม่ได้พูดถึงสงครามเย็นกันแล้ว แต่พูดถึงว่า Soft Power จะสามารถสร้างเศรษฐกิจให้แก่แต่ละประเทศได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า และรัฐบาลตั้งใจจะผลักดัน

แพทองธาร หยิบยกโครงการที่ประสบความสำเร็จในอดีต เช่น TCDC ในสมัยไทยรักไทย, TK Park, OTOP 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์, และกรุงเทพฯ เมืองแฟชัน โดยสิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การเน้นพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรมไม่ได้ยั่งยืนเท่าที่ควร จึงได้พัฒนา OFOS หรือ One Family One Soft Power เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยไม่จำกัดอายุ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ THACCA ที่จะเป็น พ.ร.บ.ต่อไป 

แพทองธาร ชี้ว่า การพัฒนา Soft Power ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกระยะ ตั้งแต่ ต้นน้ำ เช่นเรื่องการพัฒนาคน, กลางน้ำ คือ ปลดล็อกกฎหมายที่ล้าสมัยและมีข้อจำกัด ให้ส่งเสริมอุตสาหกรรม, และ ปลายน้ำ คือนโยบายต่างประเทศ เน้นสร้างแบรนด์ดิงให้ประเทศไทย

แพทองธาร ยกตัวอย่างโครงการของรัฐบาล คือ Songkran World Water Festival เพื่อปักหมุดสงกรานต์ให้เป็นเทศกาลระดับโลก เพราะบางพื้นที่เริ่มเล่นสงกรานต์ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ซึ่งดึงดูดได้ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวถ่ายเอง รัฐบาลต้องการร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ให้ไม่ต้องเข้ามาแค่ 13-15 เม.ย. แต่เข้ามาเจอสงกรานต์ได้ทั้งเดือน

"โครงการนี้เคยเล่าไปแล้ว แต่ก็ถูกบิดคำนิดหน่อย ว่าเราจะสาดน้ำกันทั้งเดือน ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เดี๋ยวจะหนาวกันไปหมด" แพทองธาร กล่าว

แพทองธาร กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีทุกอย่างแบบไม่เคยมีการร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ หรือการเล่าเรื่องเน้นจุดเด่นสำคัญ ตนเชื่อว่าแต่ละพื้นที่มีศักยภาพที่ดี ขาดแต่การรวบรวม และส่งต่อ บอกต่อ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำเพื่อยกระดับรายได้ของคนไทยทั้งประเทศ

"ในมุมมองของรัฐบาล Soft Power ไม่ใช่เรื่องที่มีสูตรสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ภายใน 1-2 ปี แต่เมื่อเริ่มทำแล้ว รัฐบาลจะไม่หยุดแน่นอน เราจะเห็นดอกผลของมันในอนาคตข้างหน้า" แพทองธาร ระบุ

ทั้งนี้ แพทองธาร ยังได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า แม้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จะมีความล่าช้า แต่เชื่อว่าจะสามารถทันใช้ในช่วงเดือน พ.ค. ปีหน้า ส่วนคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ได้จัดตั้งคณะทำงานต่างๆ ไว้เมื่องบประมาณพร้อมสามารถเดินหน้าได้ทันที