นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560–3 มกราคม 2561 พบว่ามีผู้ที่ศาลสั่งคุมประพฤติทั้งหมดจำนวน 6,677 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 6,030 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 90.31 รองลงมาคือ คดีขับเสพ(สารเสพติด)และอื่นๆ จำนวน 602 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 9.01 และคดีขับรถประมาท จำนวน 45 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 0.67
หากแยกเป็นรายจังหวัด ที่มีสถิติสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 448 คดี, 2. สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร จำนวน 354 คดี และ 3.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 269 คดี
สำหรับเงื่อนไขที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะกำหนดระยะเวลา 1-2 ปี ทำงานบริการสังคมเฉลี่ย 21 ชั่วโมง (12-72 ชั่วโมง) กำหนดรายงานตัว 4 ครั้ง และอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ เช่น อบรมจราจร พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ และห้ามเกี่ยวข้องกับนาเสพติด
ขณะที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้(2561) ยังพบว่า มีผู้ถูกคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับและขับประมาท ซึ่งพ้นโทษในช่วงปี 2558-2560 กลับมากระทำผิดซ้ำ 99 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 1.5 โดยผู้ถูกศางสั่งคุมประพฤติกรณีนี้ จะให้ทำงานบริการสังคม เน้นการดูแลช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง และหากมีพฤติกรรมติดสุรา จะส่งเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิกดื่มสุรา และให้พนักงานคุมประพฤติ หรืออาสาสมัครติดตามอย่างใกล้ชิด
ส่วนมาตรการนำเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) มาใช้กับทุกลุ่มความผิดตามคำสั่งศาล คาดว่าจะสามารถใช้ได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561
