พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รรท.รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รรท.รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท. ผบก.จร., และ คณะผู้บริหารโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ร่วมจัดการจราจรในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2561 บริเวณหน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ถนนสามเสน
โดยก่อนหน้านี้ได้จัดการจราจรและจัดเตรียมสถานที่จอด รับ – ส่ง นักเรียน พร้อมประชุมชี้แจงผู้ปกครองเกี่ยวกับขั้นตอนเตรียมพร้อมบุตรหลาน ในการรับ – ส่ง เมื่อถึงจุดส่งให้ จอดส่งโดยเร็ว ภายใต้สโลแกน “No kiss No hug No bye…เตรียมกระเป๋าพร้อมลง” เป็นต้น โดยปัจจุบันในหลายพื้นที่ได้เน้นจัดการจราจรโดยเปิดช่องการจราจรพิเศษ เพื่อเพิ่มช่องทางเดินรถ ทั้งในชั่วโมงเร่งด่วน เช้า และ เย็น โดยวิเคราะห์จากสภาพการจราจรและกายภาพของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถนนที่มีสถานศึกษาตั้งอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งกระทบต่อการจราจรเป็นวงกว้าง จำนวน 3 กลุ่มโรงเรียน ได้แก่ กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนสามเสน ถนนนครราชสีมา และถนนราชวิถี , กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนสีลม ถนนสาทร และถนนเจริญกรุง และกลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนเพชรบุรี ถนนอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท และถนนเพลินจิต
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำร่องจัดรถจักรยานยนต์ สำหรับรับ-ส่งนักเรียน จำนวนทั้งสิ้น 18 จุด ในกรณีที่ผู้ปกครองประสบปัญหารถติด ไม่สามารถส่งนักเรียนได้ทันตามเวลากำหนด ตามโครงการ "ส่งน้องถึงโรงเรียน" โดยผู้ปกครองสามารถโทรศัพท์แจ้งความสนับสนุนการรับ – ส่ง ได้ที่ สายด่วน 1197 ในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร ก่อนถึงโรงเรียน
นอกจากนี้ ยังตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จากกรณีเด็กถูกลืมหรือทิ้งไว้ในรถ จึงได้มีโครงการ “คุณอาคะ..กรุณาอย่าลืมหนูไว้ในรถนะคะ” เพื่อป้องกันเหตุลืมเด็กในรถอีกด้วย โดยให้หลัก 3 ข้อ ที่ผู้ขับรถยนต์รับ-ส่ง นักเรียน ต้องเตือนตัวเองเสมอ คือ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” โดยต้องนับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง ตรวจตราก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ อย่าประมาท คือ อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงสั้นๆ หากพบเด็กถูกลืมไว้ในรถ ให้เรียกเจ้าของรถเพื่อมาเปิดรถโดยเร็ว หรือขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมายัง สายด่วน 1197 หรือ 191 และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นการป้องกันที่สำคัญ คือ ตัวเด็กเอง ควรจะสอนเด็กและอธิบายวิธีเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในรถ ฝึกให้คุ้นเคยก่อนเจอเหตุสูญเสียที่เกิดจากความประมาท ป้องกันไว้ก่อน ถ้ารู้ไว้ก็จะเป็นประโยชน์กับเด็ก เริ่มจากให้เด็กลองสำรวจรถที่บ้าน หรือสอนเวลาเข้านั่งรถไปไหนด้วยกัน