ต่างประเทศ
โจรขโมย 'อะโวคาโด' ในชิลีเพิ่มขึ้นหลังราคาผลผลิตพุ่งสูง
ผลอะโวคาโดเปรียบเหมือนทองคำในชิลี เมื่อผู้ปลูกอะโวคาโดต่างประสบปัญหากับโจรขโมยผลอะโวคาโดที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ราคาผลผลิตของพืชชนิดนี้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และปรับขึ้นอีก 9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือนที่แล้ว
เครซองเต้ โมลินา เกษตรผู้ปลูกอะโวคาโดได้กว่า 100,000 กิโลกรัมเมื่อที่ผ่านมากล่าวว่า ‘ปัจจุบันเขาได้โค่นต้นอะโวคาโดออกจากพื้นที่สวนที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยหลังจากพบว่า มีผู้เข้ามาลักขโมยผลผลิตจนไม่สามารถทำกำไรจากการขายได้ และปลูกต้นซีตรัสแทนที่ เนื่องจากผลซีตรัสไม่เป็นที่ต้องการของพวกโจร’
ผลซีตรัสที่เกษตรกรชาวชิลีนำมาปลูกแทนอะโวคาโด
ฟรานซิสโก คอนทาร์โด ผู้จัดการทั่วไปของสมาคมผู้ผลิตอะโวคาโดระบุว่า กลุ่มโจรเหล่านี้จะลงมือปฏิบัติกันเป็นกระบวนการ โดยจะส่งคนเข้าไปในสวนอะโวคาโดในเวลากลางคืนเพื่อให้เข้าไปทำร้ายผู้ผลิตด้วยอาวุธปืนในเวลากลางวัน ทั้งนี้เขายังกล่าวว่า ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนส.ค. 2560 ถึงเดือน ก.พ. ในปีนี้ ทางเจ้าของสวน 10 แห่งถูกทำร้ายและสามารถจับโจรที่เข้าไปทำร้ายและขโมยผลผลิตได้แล้วกว่า 50 คน
ปัจจุบันในชิลีมีการจัดตั้งสายตรวจอะโวคาโด เหมือนในเม็กซิโกและ แคลิฟอร์เนีย เพื่อตรวจตราและสอดส่องดูแลในเรื่องการขโมยผลอะโวคาโดเป็นการเฉพาะ
ชาวชิลีส่วนใหญ่นิยมนำอะโวคาโดไปเป็นส่วนประกอบของอาหารทุกมื้อ ทั้งอาหารเช้า อาหารเที่ยงในสลัด หรือแม้แต่ของว่างยามบ่าย ส่งผลให้ราคาและความต้องการอะโวคาโดในตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาอะโวคาโดในชิลีอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 ตัน
คามิโล บริเซโน หนึ่งในผู้จัดจำหน่ายอะโวคาโดผ่านทางโซเซียลมีเดีย กล่าวว่า ทุกวันนี้เขาสามารถขายอะโวคาโดให้แก่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และลูกค้าตามบ้านเรือนต่างๆได้มากกว่า 500 กิโลกรัมในแต่ละวัน
ปัจจุบันผลผลิตอะโวคาโดในชิลีส่งออกไปยังตลาดยุโรปมากที่สุด โดยผลผลิตจากฤดูกาลที่แล้วกำลังอยู่ในขึ้นตอนการส่งออก และปัจจุบันผู้ปลุกอะโวคาโดหลายรายก็กำลังขยายตลาดในจีนเพิ่มมากขึ้น
ที่มา Bloomberg
