ไม่พบผลการค้นหา
'เอกชัย' ยืนยัน ไม่ยุติการเคลื่อนไหว แม้ถูกทำร้ายร่างกายถึง 3 ครั้ง พร้อมเดินหน้าตรวจสอบการทุจริต เรียกร้องเสรีภาพและความเป็นธรรม

นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง อ่านแถลงการณ์บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล หลังถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 หลังเคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจของรัฐบาล คสช.ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา 

โดยกล่าวถึงความล้มเหลว ความไม่ชอบธรรม การทุจริตคอรัปชั่น ของบุคคลในรัฐบาล และการจับกุมคุมขัง บุคคลที่เห็นต่างทางการเมือง โดยยกตัวอย่างชะตากรรม ของตนเองที่ถูกทำร้ายร่างกายและจับกุมเพื่อนำตัวไปปรับทัศนคติ ตลอด 4 ปีของการเคลื่อนไหว ผู้มีอำนาจพยายามทุกช่องทาง เพื่อให้ตนเองยุติบทบาททางการเมือง เริ่มแรกมีการพูดคุยเจรจา โดยส่งนายทหารและนายตำรวจระดับสูงมาพูดคุยทำความเข้าใจ จากนั้น ได้เรียกตัวเข้าค่ายปรับทัศนคติ ใช้กระบวนการทางกฎหมาย ตั้งข้อกล่าวหาโดยไม่ถูกต้อง แต่ศาลได้ให้ความเป็นธรรมและไม่ดำเนินคดีโดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวเพื่อตรวจสอบ กรณีนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ 

นายเอกชัย ระบุว่า เมื่อกระบวนการต่างๆ ไม่เป็นผล การนำความรุนแรงมาใช้จึงเกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะใช้กลไกแบบใด จะไม่สามารถ หยุดการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง เสรีภาพ ความเป็นธรรม และการตรวจสอบ การคอรัปชั่นของรัฐบาลได้

นายเอกชัย ยังอ่านบทกวี เพื่อสะท้อน ความเป็นไปของบ้านเมือง หลังการยึดอำนาจความว่า "นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาที่นี่ ที่ที่เดิมเป็นของปวงชนชาวไทย ที่ที่อำนาจอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยได้ผลิตดอกออกผล ทว่ากว่า 10 ปีมานี้มันถูกปล้นและยึดครองโดยเผด็จการทหาร

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่เพื่อทวงถามตามสิทธิของฉันในการตรวจสอบการฉ้อฉลของพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ และคณะเผด็จการคสช.

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้บรรยากาศที่เผด็จการทหารครองเมืองเขาเหล่านั้นและฉันถูกกระทำโดยไม่เป็นธรรมป่าเถื่อนและไร้ซึ่งการรับผิดเขาในวันนั้นถูกล้อมปราบถูกล้อมฆ่า ภายใต้เงาปีศาจตนเดิมตนนั้นปีศาจที่สถิตในหัวใจของเผด็จการยุคแล้วยุคเล่า และฉันในวันนี้ก็ถูกกระทำเช่นกัน

การคุกคามโดยกลุ่มคนที่เผด็จการอยู่เบื้องหลังมันทำให้ฉันเจ็บปวดและบ่อยครั้งมันทำให้ร่างกายของฉันได้รับทุกข์ทรมานสูญเสียเสรีภาพและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตแต่นั่นก็หาอาจหยุดยั้งความฝันอันแรกเริ่มของฉันไม่

ฉันฝันเห็นสังคมที่งดงามมีเสรีภาพมีความเสมอภาค มีความเท่าเทียมและเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงและนั่นมันทำให้ฉันมีพลังในการออกมาต่อสู้ จากวันนั้นจนวันนี้ เผด็จการทำร้ายฉันได้เพียงร่างกายและอิสรภาพเท่านั้น แต่หาอาจทำลายความเป็นคนของฉันได้ ความฝันและเจตจำนงที่จะต่อสู้กับเผด็จการยังคงอยู่และแผ่ขยายไปในหมู่คนที่มีฝันมีอุดมการณ์เช่นเดียวกับฉัน

ฉันจะสู้จนถึงที่สุดและสักวันเผด็จการจงพินาศชัยชนะจะเป็นของประชาชน"

อ่านเพิ่มเติม