นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงการเมืองแบบใหม่ และแบบเก่า จำนวน 9 ประเด็น โดยมีใจความว่า การเมืองแบบใหม่เป็นการเมืองที่มองว่าคู่แข่งทางการเมอืงฝ่ายใดจะเอาชนะประชาชขชนได้ มิใช่ศัตรูที่ต้องทำลายล้าง การเมืองแบบเก่า เป็นการเมืองที่จ้องทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม โดยใช้ทุวิธีกำจัดฝ่ายตรงข้าม

การเมืองแบบใหม่พรรคการเมืองต้องทำงานอย่างหนักโน้มน้าวให้ประชาชนเลือกผ่านนโยบาย คุณค่าอุดมการณ์ของพรรค แต่การเมืองแบบเก่า เป็นการเมืองที่พรรคการเมืองต้องการที่นั่งในสภา โดยการดูดตัวนักการเมือง อดีต ส.ส.ที่มีอิทธิพลในพื้นที่

การเมืองแบบใหม่ การเมืองที่พรรคการเมืองมีอุดมการณ์ คุณค่าพื้นฐานของพรรค มี identity ของพรรค สามารถจัดประเภทได้ว่าเป็นพรรคซ้าย-ขวา ตามเฉดสเปคตรัมอุดมการณ์ทางการเมือง แต่การเมืองแบบเก่า การเมืองที่พรรคการเมืองไม่มีอุดมการณ์พื้นฐาน ตั้งขึ้นมาเพื่อหวัง “เสียบ” เป็นรัฐบาล สร้างอำนาจต่อรองในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์หรือนโยบาย มุ่งต่อรองจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรี แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน พรรคการเมืองเหล่านี้ไม่อาจจัดประเภททางอุดมการณ์ได้ เพราะ อะไรก็ได้ขอให้ได้เป็นรัฐบาล

นายปิยบุตร ระบุว่า การเมืองไทยเดินทางมาถึงห้วงเวลาแห่งการชี้ขาดระหว่างการเมืองแบบใหม่กับการเมืองแบบเก่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คือ โอกาสอันสำคัญที่ประชาชนจะได้ชี้ขาดว่า ต้องการการเมืองแบบใหม่หรือแบบเก่า

"พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ ใช้วิธี ดูด หรือ บีบบังคับ อดีต ส.ส. มาเป็นแผง เป็นมุ้ง เพียงเพื่อหวังจะให้เป็นฐานในการเดินไปสู่การเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคแบบนี้ไม่มีทางที่จะทำการเมืองแบบใหม่ได้ มันเป็นได้เพียง พรรคชื่อใหม่ พรรคเกิดใหม่ ที่เป็น เสื้อผ้าอาภรณ์ ห่อหุ้ม การเมืองแบบเก่า เท่านั้น ถึงเวลาที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดชี้ชะตาว่า ต้องการการเมืองแบบใหม่ หรือการเมืองแบบเก่า" นายปิยบุตร ระบุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ปิยบุตร แสงกนกกุล : ถ้าการเมืองสร้างสรรค์พอ คนจะไม่เอารัฐประหารอีก