'วอยซ์ ออนไลน์' มีโอกาสสำรวจความเห็นแม่ค้าในตลาดเช้า อุทัยธานี ริมแม่น้ำสะแกกรัง หรือ ตลาดเทศบาล 1 เมืองอุทัยธานี ตลาดที่ชาวท้องถิ่น และคนกรุงเทพฯ ต้องแวะเวียนไปชิม -ช็อป - ชม เพราะอุทัยธานี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 3 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น
แม่ค้าหมูสะเต๊ะรายหนึ่ง เล่าว่า เธอเปิดขายหมูสะเต๊ะที่ตลาดนี้มาได้ 2 ปีแล้ว แต่ละวันจะเริ่มตั้งแผงขายตั้งแต่ตี 4 ถึง 9 โมงเช้า วันเสาร์-อาทิตย์จะขายดี ขายได้ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาจะขายได้ประมาณ 500 ไม้ อย่างไรก็ตาม แต่ละวันก็จะทำมาประมาณ 600 ไม้ หรือ หมูประมาณ 10 กิโลกรัม เพราะทำมากกว่า ไม่มีแรงทำ อีกอย่างเปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านด้วย หลังจากขายหมูสะเต๊ะที่ตลาดเช้าแล้ว ตอน 10.00-17.00 น. ก็จะกลับไปขายอาหารตามสั่งด้วย
เธอบอกด้วยว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ตลาดเงียบกว่าแต่ก่อน ปกติเสาร์-อาทิตย์จะมีคนมามากกว่านี้ แต่เธอก็ยังอยู่ได้ เพราะขายทั้งหมูสะเต๊ะที่ตลาดและขายอาหารตามสั่งที่บ้าน
"เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เดี๋ยวนี้เงียบหน่อย ต่างจากเมื่อก่อนคนจะเดินเสาร์-อาทิตย์มากกว่า" แม่ค้าหมูสะเต๊ะ กล่าว
แผงข้างๆ กันนั้น มีแม่ค้าขายขนมจีน 2 ราย รายหนึ่งบอกว่า ขายขนมจีนน้ำยาที่ตลาดนี้มาร่วม 20 ปี จากแต่ก่อนเทศบาลคิดว่า เช่าแผงวันละ 7 บาท ปัจจุบันคิดเหมาเป็นเดือน เดือนละ 300 บาท
"ตลาดเปลี่ยนไปเยอะ ตอนนี้ผู้คนน้อยลงหน่อย เราขายขนมจีน น้ำต่างๆ ขนมจีนก็ทำเองเป็นแบบหยอดกระป๋อง ทำกันสองคนตายาย ไม่มีลูกจ้าง ส่วนลูกๆ ก็ทำงานกันหมด หลานที่อยู่ด้วยก็เรียนหนังสือ"
เธอบอกด้วยว่า ทำขนมจีนมาขายวันละประมาณ 20 กิโลกรัม ทำไม่มาก ขายที่ตลาดตั้งแต่ตี 5 กว่า ถึง 9 โมงเช้า ถ้าเหลือก็เอาไปตั้งขายหน้าบ้าน มีรับสั่งทำบ้างในบางครั้ง
"เศรษฐกิจไม่ดี ก็เหมือนกันหมด เราก็ไม่เครียด คนมาจากที่ไกลๆ ก็บอกว่า ที่ไหนๆ ก็เศรษฐกิจไม่ดีเหมือนกัน" แม่ค้าขนมจีน ที่อยู่กับตลาดเช้า จ.อุทัยธานี มากว่า 20 ปี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดเช้า เทศบาลอุทัยธานี ริมแม่น้ำสะแกกรังแห่งนี้ มีอาหารสด ปลาต่างๆ รวมถึงของแห้ง ผักสดๆ จากสวนชาวบ้านมาวางขาย ราคาจับต้องได้ และด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จึงเหมาะกับการเดินทางไปเยือนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้ๆ ที่มีเวลาไม่มาก แต่ต้องการไปสัมผัสกับวิถีชีวิตนอกกรุงเทพฯ บ้าง