ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย พร้อมลงสนามเลือกตั้ง แม้หลายปีที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกทำลายมาโดยตลอด ชี้นโยบายพรรคมาจากความเข้าใจ ยึดประชาชนเป็นหลักยากต่อการเลียนแบบ พร้อมคว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่ให้คนไทยทุกคน

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการเปิดตัวหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ว่า หลายปีมานี้ประเทศของเราเผชิญปัญหาหลายอย่าง ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ประสบปัญหาถูกทำลายมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้พี่น้องโอบอุ้มเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีการมุ่งทำลาย ก็ไม่มีทางทำลายจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยได้

"วันนี้นักรบของพวกเราพร้อมแล้ว ในการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง" นายภูมิธรรม กล่าว

สุดารัตน์พร้อมนำพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้ง ยืนยันไม่น้อยใจที่ไม่ถูกเลือกนั่งหัวหน้าพรรค

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กล่าวถึงความแตกต่างบทบาทของ ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ หัวหน้าพรรค ว่าหัวหน้าพรรคจะดูแลจัดการบริหารจัดการทั้งพรรค ส่วนตัวเองในฐานะประธานยุทธสาสตร์ฯ ก็เป็นหนึ่งในทีมงานของหัวหน้าพรรค ซึ่งรับผิดชอบจัดการเลือกตั้งอยู่ภายใต้การทำงานของหัวหน้าพรรคและในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พร้อมนำพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดยจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด นำเอาประสบการณ์จากอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาใช้ทำงาน

ขณะที่ไทยรักไทยและ พรรคเพื่อไทยเป็นคนก้อนเดียวกันทุกนโยบายที่พรรคทำ จะเน้นที่การหารือ และการร่วมคิดกับประชาชน และหยิบเอาจุดแข็งทั้งหมด มาใช้ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้อีกทั้ง นโยบายของพรรคเป็นนโยบายที่รับฟังมาจากประชาชน จากการวิเคราะห์ จึงมั่นใจต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่เคยระบุตัวเลขว่าพรรคเพื่อไทย จะได้ที่นั่ง ส.ส.200กว่าตำแหน่งขึ้นไป แต่ได้วางเป้าหมายไว้ จะทำให้ได้มากที่สุด และจะทำให้ประชาชนพอใจมากที่สุด ขณะเดียวกันในฐานะประธานยุทธศาสตร์ จะโฟกัสทุกพื้นที่ของไทย เพราะสมาชิกในพรรคแต่ละคน มีความชำนาญในพื้นที่แต่ละภาค ยิ่งรัฐธรรมนูญแบบนี้ พรรคเพื่อไทย ต้องโฟกัสทั่วประเทศ


สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-จาตุรนต์ ฉายแสง-หญิงหน่อย-20181028

ส่วนที่มองว่า มีพรรคสาขา ของพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นใหม่หลายพรรค จะไปตัดฐานเสียงกันเองหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ เมื่อถึงเวลาใกล้เลือกตั้ง จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ว่าพรรคเพื่อไทย มีความแตกต่างจากพรรคอื่นอย่างไร เพราะเพื่อไทยก็คือเพื่อไทย เป็นพรรคที่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เพียงพรรคเดียว

ส่วนข้อกังวลการยุบพรรคเพื่อไทย ในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ล้วนแต่ตกในสถานการณ์นี้ ซึ่งมองว่า เป็นการไม่ได้รับความยุติธรรม แต่มาวันนี้ พรรคเพื่อไทย ไม่กลัวกับการยุบพรรค และได้เตรียมวิธีรับมือหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อให้สมาชิกพรรคได้มีชีวิตไปทำงานให้กับประชาชนต่อได้อย่างแน่นอน

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ จะมาร่วมทำงานในทีมยุทธศาสตร์ รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายโภคิน พลกุล โดยจะนำจุดแข็งของแต่ละคนมารวมกันเพื่อทำงานให้ประชาชน

เมื่อถามว่า น้อยใจหรือไม่ที่ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ไม่มีความคิดเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะได้พูดตั้งแต่วันแรกว่าจะไม่ขอเสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค และส่วนตัวพร้อมสนับสนุน พล.ต.อ.วิโรจน์ เป็นหัวหน้าพรรคต่อ เพราะเป็นผู้ใหญ่ในพรรค และที่ผ่านมาก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ยากลำบาก และย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีความแตกแยก ส่วนความเห็นต่างนั้น เป็นความสวยงามของประชาธิปไตย

ส่วนการก้าวเข้ามาเป็นประธานยุทธศาสตร์ จะเป็นการกลับเข้ามาทำงานการเมืองในพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มตัวหรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ตนเองเป็นเพียงจักรตัวหนึ่ง แต่ในพรรคมีตัวขับเคลื่อนที่สำคัญอีกหลายคน ทั้งนี้ตนเองอาจผ่านการเลือกตั้งมามากกว่า 28 ปี และจะใช้ประสบการณ์ทั้งหมดมาช่วยพรรค

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองยังไม่สามารถจะระบุได้ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเขตไหน เพราะต้องดูความชัดเจนจาก กกต. ส่วนจะมีรายชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังอีกไกล ยังไม่ถึงเวลาก็อย่าไปรีบ ถ้าหากระบุไปอาจมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งได้สุดารัตน์พร้อมนำพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้ง หลังได้รับเลือกเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ยืนยันไม่คิดน้อยใจที่ ไม่ถูกเลือกนั่งหัวหน้าพรรค ไม่ตอบเป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีชี้เป็นเรื่องไกลรอกระบวนการเลือกตั้งเจนก่อน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กล่าวถึงความแตกต่างบทบาทของ ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ หัวหน้าพรรค ว่าหัวหน้าพรรคจะดูแลจัดการบริหารจัดการทั้งพรรค ส่วนตัวเองในฐานะประธานยุทธสาสตร์ฯ ก็เป็นหนึ่งในทีมงานของหัวหน้าพรรค ซึ่งรับผิดชอบจัดการเลือกตั้งอยู่ภายใต้การทำงานของหัวหน้าพรรคและในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พร้อมนำพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดยจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด นำเอาประสบการณ์จากอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาใช้ทำงาน

พร้อมย้ำว่าไทยรักไทยและ พรรคเพื่อไทยเป็นคนก้อนเดียวกันทุกนโยบายที่พรรคทำ จะเน้นที่การหารือ และการร่วมคิดกับประชาชน และหยิบเอาจุดแข็งทั้งหมด มาใช้ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้อีกทั้ง นโยบายของพรรคเป็นนโยบายที่รับฟังมาจากประชาชน จากการวิเคราะห์ จึงมั่นใจต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งนี้

ด้านนายดนุพร ปุณณกันต์ รองเลขาธิการพรรค อ่านแถลงการณ์ในการกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า บุคลากรของพรรคเพื่อไทยได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ไม่ว่าจะเป็นยุคที่มีประชาธิปไตยหรือไม่มี โดยการต่อสู้ทางการเมือง เราได้ผลิตนโยบายด้วยหลักการยึดโยงประชาชน เพื่อต้องการแก้ปัญหาและสร้างโอกาสชีวิตที่ดีขึ้น

ดังนั้นการผลิตนโยบายหลายชุด ไม่ว่าอยู่ในสังกัดของพรรคการเมืองชื่อใด เป็นนโยบายที่ผ่านการศึกษา ด้วยความเข้าใจชีวิต ความทุกข์ เข้าถึงเศรษฐกิจของสังคม ที่ยึดวิสัยทัศน์และยึดถือประชาชนเป็นหลัก จะเห็นได้ว่านโยบายหลายชุดที่ผลิตออกมายากต่อการเลียนแบบ และสามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรม 

อย่างไรก็ดี ความมุ่งมั่นของพรรคเพื่อไทยคือ การร่วมมือกับประชาชน เพื่อบูรณะความหวังของสังคม ซึ่งพรรคเพื่อไทยเล็งเห็นว่า นโยบายเศรษฐกิจต้องมีความสร้างสรรค์ เพื่อกระจายโอกาสสู่ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ให้โอกาสกระจุกตัวอยู่กับคนส่วนน้อย 

พร้อมกันนี้ นโยบายสำคัญที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านสุขภาพ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ถูกนำไปใช้ แม้ว่าจะมีผู้พยายามล้มเลิกโครงการอยู่เป็นระยะก็ตาม

ขณะที่การปรับตัวของพรรคเพื่อไทยนั้นในโลกสมัยใหม่ ดังปรากฎทางด้านสังคมและเศรษฐกิจต่างๆ นั้น จึงเกิดเป็นความท้าทายทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้พรรคเพื่อไทยมุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยงจากการตกงาน และสร้างงานธุรกิจใหม่ๆ ให้ประชาชน และพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสทางการค้าขายใหม่ 

"วันนี้พฤติกรรมการบริโภคของตลาดโลกเปลี่ยนไป พรรคเพื่อไทยต้องพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่" นายดนุพร กล่าว

นายดนุพร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พรรคเพื่อไทยจำต้องคิดไปข้างหน้าว่าระบบสวัสดิการและกระบวนการสร้างงานในรูปแบบใดจะทำให้ผู้สูงอายุไทยมีชีวิตที่มีคุณภาพ ส่วนการพัฒนาระบบการศึกษานั้น ต้องมีความเปลี่ยนแปลงไปสู่การเรียนรู้แบบใหม่ และรูปแบบการเรียนแบบใหม่ ทั้งในและนอกห้องเรียนเพื่อพัฒนาความสามารถและสร้างโอกาสแห่งอนาคตที่จับต้องได้

นายดนุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับประชาชน เดินไปข้างหน้าด้วยปัญญา ด้วยความน่าเชื่อถือแห่งหลักยุติธรรม เพื่อทลายกำแพงที่ปิดกั้นโอกาสและความมั่งคั่งของชีวิต

"พรรคเพื่อไทยจะคว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่ให้คนไทยทุกคน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: