ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมสภาฯมีมติเห็นชอง ร่าง พ.ร.บ.งบฯ68 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาทแล้วด้วยคะแนน 309 ต่อ 155 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง เตรียมส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ คาดจะบรรจุในวาระการประชุม 9-10 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวงเงินงบประมาณ จำนวน 3,752,700 ล้านบาท โดยมีมติคะแนนเห็นด้วย 309 ต่อ 155 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 469 คน

458230369_941582764666563_750516097939931066_n.jpg

หลังจากสภาฯ ให้ความเห็นชอบแล้ว สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งร่างไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งวุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน นับแต่วันรับร่าง โดยคาดว่า ประธานวุฒิสภาจะบรรจุในระเบียบวาระการประชุมวันที่ 9-10 กันยายนนี้ 

ทั้งนี้หลังจาก สภาผู้แทนฯ ลงมติเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2568 แล้ว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนคณะรัฐบาล ได้กล่าว ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2568 ว่า 

งบประมาณรายจ่ายนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนา เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ

ส่วนข้อคิดเห็นและความห่วงใยที่ท่านสมาชิกได้เสนอแนะไว้ตลอด 3 วันที่มีการประชุมนี้ รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากเงินงบประมาณ รวมถึงจะนำเงินงบประมาณซึ่งมาจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชน ไปใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ

ขอขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญทุกท่าน ที่ให้ความสำคัญ สละเวลา และร่วมมือในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วง โดยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ รัฐบาลจะนำไปประกอบการพิจารณาประกอบการปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อให้การจัดสรรงบ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามหลักการวิเคราะห์ความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

“งบประมาณที่ได้รับอนุมัติใช้จ่ายครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของแผนงานที่กำหนด โดยรัฐจะกำกับดูแลติดตามการใช้จ่ายดังกล่าว ให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสำเร็จตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ประเทศและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายตามความมุ่งหวังของรัฐบาลและสมาชิกสภาแห่งนี้ทุกท่านต่อไป” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว