ไม่พบผลการค้นหา
แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พบผู้ค้าผลไม้ตลาดสะพานขาว สะท้อนปัญหากำลังซื้อต่ำ ยืนยันไม่ยกเลิกบัตรคนจน ขอต่อยอดให้มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำอย่าเลือกเพื่อไทยเพราะจะให้ราคาสินค้าดี แต่เลือกเพราะเห็นอนาคต แก้ปัญหาตรงจุด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย และนางสาวลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เขต 1 (พระนคร-ป้อมปราบฯ-ดุสิต) หมายเลข 9 ลงพื้นที่หาเสียงและพูดคุยกับชมรมตลาดผลไม้สะพานขาว หรือ ตลาดมหานาค บริเวณ สี่แยกมหานาค กรุงเทพมหานคร 

พ่อค้าหลายรายยอมรับว่า สภาพการค้าขายย่ำแย่ เนื่องจากเศรษฐกิจระดับฐานรากตกต่ำประชาชนไม่มีกำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าผลไม้ปลีกจากต่างจังหวัดที่เคยมาซื้อที่ตลาดมหานาคลดลง ประกอบกับการจัดระเบียบที่จอดรถริมถนนและการจัดระเบียบทางเท้าทำให้การจอดรถซื้อขายผลไม้ลดลงอีก ซึ่งต้องการให้พรรคเพื่อไทยเตรียมนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้

นายชัชชาติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อันดับแรกคือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา เพื่อให้เกิดการลงทุน เพราะทุกวันนี้แม้เงินในระบบมีเยอะ แต่คนไม่กล้าลงทุน เนื่องจากไม่มั่นใจเสถียรภาพทางการเมือง

นอกจากนั้น ต้องพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เช่น เกษตรกร ยกระดับราคาสินค้าให้ดีขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อให้มีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันต้องลดการพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ และพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น ได้แก่ การลงทุนในระดับเส้นเลือดฝอย, การบริโภคภายในประเทศ และการเกษตร

ขณะเดียวกัน จะต้องช่วยเหลือคนตัวเล็กให้มีแหล่งกู้ยืมเงินลงทุนและใช้จ่ายหมุนเวียน ประกอบกับรัฐบาลจะต้องสนับสนุนเทคโนโลยีและให้ความรู้ในการใช้จ่ายเงินลงทุน

ชัชชาติ

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เดิมประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมแต่ยังไม่มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรให้ดีขึ้น กลับไปเริ่มต้นอุตสาหกรรมและพัฒนาอุตสาหกรรมก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นแรงงานราคาถูก และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ในขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจโลกเริ่มเปลี่ยนไป ดังนั้นต้องเพิ่มประสิทธิภาพของเกษตรให้ดีขึ้น เพิ่มความต้องการซื้อในตลาด พัฒนาและแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มราคา พัฒนาระบบชลประทานเพื่อให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชทางเลือกได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร ลดต้นทุนแรงงานให้น้อยลงเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ส่วนการช่วยเหลือคนจนเป็นนโยบายระยะสั้นที่ต้องดูเป็นรายกรณี

สำหรับการจัดระเบียบทางเท้า นายชัชชาติ มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำการปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลต้องช่วยประสานกับเอกชนเพื่อหาพื้นที่ให้ทดแทนให้กับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และกำหนดช่วงเวลาค้าขายตามทางเท้า นอกจากนี้การจัดระเบียบสถานบริการให้ปิดก่อนเที่ยงคืน ซึ่งกระทบกับผู้ค้าอาหารและบริการอื่นๆ ตามมา ดังนั้นการจัดระเบียบสร้างความเรียบร้อยแต่กระทบวิถีชีวิตของคน รัฐบาลจึงต้องคืนโอกาสให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ยังมีประชาชนติติงถึงเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ซึ่งนายชัชชาติน้อมรับและพร้อมปรับปรุงไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยกล่าวว่าอยากให้ทุกคนถอดเสื้อทุกสีแล้วใส่เสื้อประเทศไทย หลังการเลือกตั้งหากใครได้เป็นรัฐบาลตนก็พร้อมที่จะทำงานไปด้วยกัน

ชัชชาติ

เมื่อประชาชนถามว่าหากนายชัชชาติได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะแก้ปัญหาใดเป็นเรื่องแรก 

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบว่าจะสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้า ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างสามัคคีและยุติความขัดแย้ง ลำดับต่อมาคือการปราบปรามคอรัปชั่นโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านทางออนไลน์และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับนโยบายที่ดี ที่นายชัชชาติเห็นควรสานต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ EEC และ นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตนก็จะไม่ยกเลิก เนื่องจากภาครัฐได้เตรียมเงินช่วยเหลือไว้แล้วและเป็นการช่วยเหลือคนจน แต่เรื่องจะเพิ่มเงินช่วยเหลือหรือไม่ต้องศึกษาพิจารณาอย่างละเอียด 

สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มประสิทธิภาพการใช้บัตรให้ครอบคลุมการใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานให้มากขึ้น ขณะเดียวกันประชาชนต้องสามารถกดเงินสดเพื่อไปซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ในตลาดได้เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบซึ่งเป็นหัวใจของบัตรคนจน และในอนาคตจะต้องรวมบัตรนี้ไว้กับบัตรประชาชนใบเดียว ไม่ต้องพกบัตรคนจนเพราะทุกคนคือคนไทยเหมือนกัน

กรณีที่หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการช่วยเหลือเงินให้กับประชาชนที่ยากจน, ผู้สูงอายุ, มารดาและเด็กแรกเกิด

นายชัชชาติเห็นว่า ประเทศไทยยังไม่ใช่รัฐสวัสดิการแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันเก็บภาษีได้เพียงร้อยละ 14 - 16% ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เก็บภาษีได้มากกว่า 25% ดังนั้นจึงต้องใช้เงินอย่างชาญฉลาด ไม่เน้นการแจกเงินแต่เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถาวรวัตถุเพื่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาว รวมทั้งนำเงินไปพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ดียิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้นายชัชชาติ ยังปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยจะทำโครงการรับจำนำข้าวต่อ แต่จะมีโครงการอื่นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมย้ำว่าไม่อยากให้คนไทยเลือกพรรคเพื่อไทยเพราะสัญญาว่าจะให้ราคาสินค้าดี แต่อยากให้เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมองเห็นปัญหา มองเห็นอนาคต และมีผู้บริหารมืออาชีพที่จะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

ชัชชาติ

หลังจากนั้นนายชัชชาติเดินทางมาพบปะและพูดคุยกับผู้ประกอบการ hostel ชุมชนวัดเทพธิดาราม รับฟังปัญหาเรื่องการจัดการขยะและการปรับคุณภาพน้ำในคลองให้ใสสะอาดน่าท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเขาเสนอว่าพรรคมีนโยบายช่วยเหลือเงินลงทุนแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กให้สามารถทำธุรกิจและต่อยอดได้ 

ทั้งนี้ระหว่างการเดินเยี่ยมชม hostel ในชุมชน มีประชาชนมาขอถ่ายรูปจำนวนมาก หลายคนต่างกล่าวว่าหากหลังการเลือกตั้งไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีอยากให้นายชัชชาติเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :