วันนี้ (17 มกราคม 2568) นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (H.E. Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ 

เลขาธิการนายกรัฐมนตรียินดีที่ทั้งไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีและแข็งแกร่งร่วมกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งขอให้สหรัฐฯ เชื่อมั่นว่า ขณะนี้ไทยพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยรัฐบาลไทยเน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตผ่านนโยบายและมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะการเปิดกว้างสำหรับธุรกิจและการลงทุนจากต่างประเทศ รวมไปถึงการขยายความร่วมมือในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก

ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยินดีที่ได้พบหารือกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งสองประเทศต่างเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยและได้เห็นถึงความสามารถ ความอุตสาหะของคนไทย จึงเชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยสหรัฐฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุนจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะสามารถต่อยอดสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนไทยได้อีกด้วย 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ ได้เข้ามาลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ และการผลิตก๊าซธรรมชาติจากภาคธุรกิจไทย ขณะเดียวกันเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ สนับสนุนภาคธุรกิจของสหรัฐฯ ให้มีส่วนร่วมในการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เพิ่มเติม โดยรัฐบาลมีการปรับปรุงนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยินดีเป็นสื่อกลางในการเชิญชวนนักลงทุนสหรัฐฯ พร้อมชื่นชมศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะด้านการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ (hard drives) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างมากสำหรับการรองรับการเติบโตของระบบคลาวด์ในอนาคต 

ด้านการท่องเที่ยว เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ชื่นชมนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลมีแนวทางที่จะสร้างศูนย์ท่องเที่ยวครบวงจรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกประเภท เช่น การจัดประชุม การจัดงานระดับโลก การจัดคอนเสิร์ต 

ด้านการศึกษาและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่สหรัฐฯ ได้จัดทำโครงการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของไทยและสหรัฐฯ ต่อเนื่องมาเป็นระยะที่ 2 ซึ่งมีความร่วมมือกับภาคเอกชนด้วย โดยเฉพาะโครงการด้านการศึกษาสำหรับแรงงานชาวไทยที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ รวมทั้งเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือเพื่อเพิ่มจำนวนนักเรียน คณาจารย์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนด้านศึกษาการวิจัยระหว่างกัน