นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรยายให้กับนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน สถาบันพระปกเกล้า ในหัวข้อ ความรับผิดทางกฎหมายอันเกิดจากการบริหาร : ความรับผิดทางการเมือง ตอนหนึ่งว่า หลักการบริหารที่ดีต้องมีธรรมาภิบาล 6 ข้อ ได้แก่
1.หลักนิติธรรม คือ ยึดกฎหมาย
2.หลักความซื่อสัตย์สุจริต
3.หลักความโปร่งใส
4.หลักความรับผิดชอบ ตรวจสอบได้
5.หลักการมีส่วนร่วม และ
6.หลักความคุ้มค่า
อย่าวไรก็ตาม นายชวนมองว่าควรมีหลักธรรมาภิบาล ข้อที่ 7 คือ หลักไม่เกรงใจ ไม่ยอมทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ยอมรับคำสั่งการของผู้บริหารมาปฏิบัติ ทำจนเกิดภัยกับตนเอง เพราะคนที่สั่งการไม่มีใครได้รับผิด แต่คนที่ทำตามคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้งข้าราชการ เป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดแทน ซึ่งการไม่ยอมหรือไม่เกรงใจต้องยึดมั่นทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ในการเมืองตามระบบประชาธิปไตยใช้การตรวจสอบถ่วงดุล
ทั้งนี้ ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนนายกรัฐมนตรีของไทยมาจากเสียงข้างมากในสภาฯ ทำให้มีกลไกตรวจสอบถ่วงดุลทั้งการอภิปรายฝ่ายบริหาร ขณะที่ฝ่ายบริหารมีอำนาจถ่วงดุลสภาฯ ผ่านการประกาศยุบสภา และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สภาฯจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติมีสิทธิตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทั้งกระทู้ถาม เสนอญัตติ และหนักสุดคือ ไม่ไว้วางใจ กฎหมายระบุว่าเมื่อเสนอญัตติแล้ว รัฐบาลไม่มีสิทธิยุบสภา
อย่างไรก็ตามการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร หรือ การตรวจสอบของสภาฯ ไม่มีสิทธิชี้ความผิดของการบริหาร เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยมีข้อเสนอให้สภาฯ สรรหาหรือแต่งตั้งฝ่ายตุลาการ แม้เป็นความหวังดี แต่วัฒนธรรมการเมืองของไทยไม่เหมือนประเทศอื่น ผมมองว่าบทบาทของศาลมีส่วนช่วยประคับประคองบ้านเมืองหลายเรื่อง ไม่ยอมรับการวิ่งเต้น เช่น กรณีการยุบพรรคการเมือง ที่ผ่านมาเคยมีที่คนในกระบวนการยุติธรรมเกรงใจ ทำให้ต้องติดคุก ดังนั้นการคัดตัวบุคคลให้ทำหน้าที่ดังกล่าวถึงสำคัญอย่างยิ่ง
นายชวน กล่าวด้วยว่า การรับผิดชอบฝ่ายบริหารเกิดจากเข้ารับหน้าที่และมีกฎหมายควบคุมฝ่ายบริหารให้ทำหน้าที่ หากละเมิดต้องรับผิดชอบ เช่น ประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์, กฎหมายว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 , ประมวลกฎหมายอาญา โดยเฉพาะมาตรา 157 ที่ทำให้ฝ่ายบริหารระดับสูงของรัฐบาลติดคุก ที่ผ่านมามีอดีตนักการเมือง ระดับรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง กระทำผิด และถูกลงโทษติดคุกหลายปี เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะความเกรงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนมองว่าปัญหาทุจริต คอรัปชั่นยังมีทุกวงการ จึงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายอย่ายอมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย เพราะเกรงใจเจ้านายหรือรุ่นพี่ รวมถีงฝ่ายการเมือง
ประธานสภาฯ กล่าวสรุปตอนท้ายด้วยว่า ความรับผิดชอบทางการเมือง แม้ไม่ใช่ความผิดทางกฎหมาย แต่คือความรับผิดชอบหลังจากมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นสิ่งที่จะต้องรับผิดชอบนั้นเป็นหน้าที่โดยตรงหรือไม่ และนอกจากการปฏิบัติที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ต้องรับผิดชอบกับคำพูดด้วย ส่วนกรณีสังคมวิจารณ์ เรื่องการกดดบัตรแทนกัน อย่างกรณีที่พบว่ากดบัตรแทนกัน เพราะคนมีสิทธิ ไม่สะดวกกดบัตรเอง แต่ยืนอยู่ใกล้ๆ ให้เพื่อนส.ส.กดให้ ถือว่าไม่มีเจตนา แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ควรมองเป็นเรื่องเล็ก ต้องมีความผิดรับผิดชอบทางการเมือง แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ต้องมองถึงประเด็นคุณธรรม จริยธรรม ที่ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน