วันที่ 19 มี.ค. เวลา 22.00 น. ที่บริเวณหมู่บ้านพระปิ่น 3 อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นำคณะเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี สามารถจับกุมนักพนันได้กว่า 300 ราย

อนุทิน กล่าวว่า บ่อนนี้ มีลักษณะปิดๆ เปิดๆ เราติดตามมาตลอดตั้งแต่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน โดยรวบรวมข้อมูลเพื่อมาดำเนินการ ซึ่งบ่อนที่นี่ใหญ่มาก มีชิพ มีเงินสด มีโต๊ะ มีทางหนีทีไล่ หลังจากนี้ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป ทั้งการตรวจสอบจากบัญชี เส้นทางการเงินต่างๆ และขอเรียนว่า การเปิดบ่อนการพนันลักษณะนี้ เจ้าของไม่มาบอกเจ้าหน้าที่หรอกว่าเขาจะเปิด เราต้องไล่สืบเสาะหา ซึ่งถ้าเขาเล่นเป็นกิจวัตร ยังไงก็ไม่มีทางพ้นการสืบทราบของเจ้าพนักงาน ยืนยันว่า เราทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครองและตำรวจ ตอนนี้ท่านอธิบดีกรมการปกครองได้ประสานไปยังท่านประธาน ปปง. สั่งอายัดบัญชีไปแล้ว

อนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำความผิดในวันนี้ เป็นความผิดที่สมบูรณ์ ไม่มีการซิกแซกช่วยใครแล้ว เพราะหลายหน่วยงานเข้ามาพร้อมกันหมดแล้ว ในส่วนของนักเล่นก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ทำบันทึกจับกุมและเปรียบเทียบปรับโดยอำนาจศาล ในส่วนของนายบ่อน (เจ้าของบ่อน) วันนี้ก็ยังได้ตรวจพบอาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนเต็มแม็กเลย ความผิดตามกฎหมายครบทั้งผู้ครอบครองและผู้นำมาจำนำ และผู้รับจำนำ ส่วนเงินที่โอนมาก็ต้องไล่อายัดบัญชี ส่วนทรัพย์สมบัติที่อยู่ในบ่อน ทั้งเงินสด เครื่องเพชร ที่คนมาจำนำ ก็ต้องมีการยึดทรัพย์ และดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทุกฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง

รณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ เนื่องจากกรมการปกครองได้รับการประสานงานจากสำนักงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ชาดา ไทยเศรษฐ์) ว่ามีพี่น้องประชาชนร้องเรียนว่ามีผู้มีอิทธิพลลักลอบเปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในบริเวณหมู่บ้านพระปิ่น 3 อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่ปลายปี 2566 จึงขอให้กรมการปกครอง ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ่อนการพนันดังกล่าว 

โดยกรมการปกครอง ได้ทำการสืบสวนครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 พบบ่อนการพนันอยู่ในหมู่บ้านพระปิ่น 3 ไม่มีเลขที่ ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อบ่อนพระปิ่น 3 โดยทีมสืบสวนใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินขึ้นสำรวจบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าเป็นบ่อนการพนัน พบอาคารขนาดใหญ่และมีรั้วรอบขอบชิด มีที่จอดรถจำนวนมาก พบเห็นผู้คนเข้าออกอาคารดังกล่าวอยู่ตลอดเวลาที่ทำการสืบสวน คาดว่าภายในจัดให้มีคนเล่นการพนันอย่างแน่นอน

ต่อมาได้ทำการสืบสวนครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 สายลับพนักงานฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริง ด้วยการนั่งรถแท็กซี่ไปลงหน้าบ่อนการพนัน พบว่า ลักษณะของบ่อนการพนันมีรั้วมิดชิดพื้นที่บ่อนการพนันมีขนาดใหญ่ สามารถจอดรถได้ 100 – 150 คัน รวมพื้นที่ของบ่อนและลานจอดรถประมาณ 2,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีลานจอดรถด้านนอก มีพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางเมตร สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 200 - 300 คัน สายลับทำทีเป็นนักพนันที่ได้รับการชักชวนมาจากนักพนันรายอื่น จึงสามาถผ่านเข้าประตูแรกริมรั้วเข้าไปได้ โดยการ์ดหน้าบ่อนจำนวน 1 คน ได้ซักถามว่าเคยมาเล่นที่บ่อนนี้หรือไม่ สายลับแจ้งไปว่าเคยมาเล่น การ์ดด้านหน้าจึงปล่อยให้เข้าไปด้านในได้ โดยภายในพบว่าพนักงานทุกคนจะมีวิทยุสื่อสารกัน คอยสื่อสารแจ้งข้อมูลรถยนต์และจำนวนคนที่เข้าไปเล่นภายในบ่อน แต่เมื่อเข้าไปภายในอาคาร มีการ์ดจำนวน 5 คน ทำหน้าที่ซักถามประวัติว่าเคยมาเล่นที่บ่อนการพนันแห่งนี้หรือไม่ รู้จักใครด้านในหรือไม่ การจะเข้าได้ต้องมีคนข้างในมาพาเข้า สายลับไม่มีคนรู้จักด้านในมาพาเข้าจึงยังไม่สามารถเข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริงด้านในที่เป็นพื้นที่จัดให้เล่นการพนันได้ ซึ่งทำให้ทราบว่าบ่อนการพนันแห่งนี้มีระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อตั้งรับการเข้าตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ เพราะนักพนักทุกคนที่จะสามารถเข้าเล่นการพนันในบ่อนแห่งนี้ได้ ต้องมีคนรู้จักซึ่งเคยเข้ามาเล่นที่บ่อนแห่งนี้เป็นประจำพาเข้า เพราะการ์ดด้านในจะตรวจเช็คประวัตินักพนักหน้าใหม่อย่างละเอียดและจากการสังเกตนักพนันส่วนมากลักษณะเป็นคนมีเงิน ผิวพรรรณ ดี แต่งตัวดี เป็น อาเฮีย อาซ้อ พบเห็นรถยนต์ของนักพนันที่เข้ามาเล่นในบ่อนการพนันส่วนมากเป็นรถยุโรป ราคาแพง และมีป้ายประมูล ทำให้สันนิษฐานได้ว่าต้องมีเงินหมุนเวียนภายในบ่อนการพนันแห่งนี้จำนวนมากต่อวัน นอกจากนี้ยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา มีกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ ทั้งด้านในและด้านนอกอาคาร ทำให้พนักงาน การ์ดของบ่อนสามารถเห็นพฤติการณ์และการกระทำของบุคคลที่เข้ามาภายในพื้นที่ได้

ภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม พบเงินสดและชิพรวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท เงินในบัญชีมากกว่า 300 ล้านบาท นักพนันมากกว่า 300 คน รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ภายในบ่อน และด้านนอกบ่อนจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดเงินสดในเซฟหลักล้านบาท และชิพวงเงินมากกว่า 50 ล้านบาท โดยพบชิพมีมูลค่ามากสุด 500,000 บาท ภายในมีการจัดให้เล่นการพนันจำนวน 3 ประเภท คือ การพนันกำถั่ว การพนันบาคารา และการพนันเสือมังกร มากถึง 16 วงพนัน กว่า 20 โต๊ะ โดยทางเจ้าของบ่อนรับสารภาพว่ามีคนนำปืน 11 มม. มามัดจำ จึงมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดไปบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ดำเนินคดีต่อไป" รณรงค์ กล่าว