สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. แถลงข่าวเปิดแคมเปญ "กกต.ต้องติดคุก" นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และนายจักรี เสาวภา นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากกรณีการจัดการเลือกตั้งที่ส่อถึงความไม่โปร่งใสและผิดปกติ

โดยนายจักรี เปิดเผยถึงการเปิดแคมเปญกกต.ต้องติดคุก ว่า เพื่อเชิญเพื่อนนิสิตนักศึกษาและองค์กรภาคประชาชน ร่วมฟ้องกกต. ตามที่มาตรา 224 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนดคณะกรรมการกกต.ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่การจัดเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย กกต.ชุดปัจจุบัน กลับเต็มไปด้วยความไม่ปกติ อาทิ กรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ อีกทั้งยังปรากฎชื่อเด็กและผู้เสียชีวิตในทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 

ดังนั้น สนท. จะดำเนินการฟ้องเอาผิด 7 กกต. ตามความผิดอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยยกตัวอย่างการฟ้องร้องอดีต กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เพื่อเปรียบเทียบการดำเนินคดี 

อย่างไรก็ดีนายจักรี ระบุต่อว่า สนท. จะดำเนินฟ้องต่อศาลในภายหลัง เพื่อไม่ให้กระทบการรับรองผลการเลือกตั้ง และจะรายงานความคืบหน้าทางคดี ผ่านแฮชแท็ก #กกต.ต้องติดคุก

“ตลอดห้าปีที่ผ่านมากลุ่มผู้มีอำนาจ มักจะอ้างกฎหมายทุกอย่าง เห็นว่า กกต.พยายามแถลงออกมา คือความต้องการขายผ้าเอาหน้ารอด เพราะนับปัจจุบันยังไม่ทราบเลยว่ากกต.ใช้สูตรไหนในการคำณวน” นายจักรี กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ในสังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ และมีการล่ารายชื่อถอดถอน กกต. เพราะเห็นว่า กกต.ไม่เคารพประชาชน และปฏิบัติหน้าที่โดยที่ไม่เกียรติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัตรเขย่ง หรือการแถลงข่าวที่คลุมเครือ

“จึงอยากฝากไปถึงมีผู้อำนาจ ไม่ว่าคุณจะมีอำนาจ มาตรา 44 แต่คุณก็ไม่ใหญ่ไปกว่าประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว

ส่วนกระบวนการตรวจสอบของ กกต.นั้น นายพริษฐ์ เห็นว่ามีความล่าช้าในการสอบสวนกรณีที่มีผู้ร้องเรียน โดย สนท.จะรอเช็คบิลหลังจากรับรองผลการเลือกตั้ง หากศาลวินิจฉัยว่าเลือกตัังโมฆะกกต.ยิ่งต้องรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายของสนท.อยู่ระหว่างการรวบรวม จึงขอประณามกกต. เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และรับเงินจากภาษีประชาชน ถือว่า กกต.มีหน้าที่ต้องเคารพประชาชนปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส และควรรับฟังข้อทักท้วงของประชาชนที่พบความไม่ปกติในการเลือกตั้ง

โดย กกต. ชุดนี้มาจากสรรหาโดยองค์กรไหน ซึ่งคือ คสช. ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เห็นว่าเริ่มต้นมาก็ไม่ชอบธรรมแต่แรกแล้ว และยินดีหากกกต.ข้องใจในเรื่องกฎหมาย ให้มาดีเบตและทีมกฎหมายสนท.จะอาสาให้คำปรึกษา

ทั้งนี้นายพริษฐ์ เปิดเผยว่าการล่ารายชื่อถอดถอนกกต. ตอนนี้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนผ่าน change.org 8-9 แสนรายชื่อ ส่วนการล่ารายชื่อโดยใช้บัตรประชาชน มีผู้ร่วมลงชื่อ 7,000-8,000 คน