นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี การทำหน้าที่ของทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า การที่พรรคฝ่ายค้านล็อคเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว อาจมีแผนประทุษกรรมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย อาจพยามอภิปรายในลักษณะที่ผิดข้อบังคับ เสียดสี ยั่วยุ ให้เกิดการประท้วง ดังนั้นตัวชี้วัด อาจไม่ได้อยู่ที่ใครอภิปรายได้ดี มีข้อมูลหลักฐานมายืนยัน แต่เกณฑ์การประเมิน อาจอยู่ที่ ใครอภิปรายหรือยั่วยุ แล้วเกิดการประท้วงให้สภาเกิดความโกลาหลได้มาก ถือว่าประสบความสำเร็จ มากกว่า หรือ เจตนาหวังสร้างคอนเทนท์เชิงลบ ไปขยายความขัดแย้งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อดิสเครดิตและด้อยค่ารัฐบาล หาคะแนนเสียงให้กับพรรคตัวเองผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การทำงานของทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภา เรารู้ทัน และเตรียมการรับมือไว้หมดแล้วทุกแผนประทุษกรรม การเมืองแบบสร้างสรรค์หรือการเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่อายุอย่างเดียว แต่อยู่ที่ทัศนคติและวิธีคิด บางครั้งวิธีคิดการเมืองแบบเก่า ทำการเมืองโบราณ ล้าหลัง อาจเกิดกับคนที่อายุไม่มากก็ได้ ซึ่งสามารถเรียกได้ว่า “คนรุ่นเก่าที่อายุน้อย” ก็เป็นได้ การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย สะท้อนผ่านโพลประชาชนอยากฟัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายมากกว่า สส.หลายคนของพรรคประชาชน เป็นสิ่งที่ต้องนำไปวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตอนเลือกตั้งบอกว่า มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา แต่กลับมาเป็นฝ่ายค้านร่วมกับลุง ร่วมอภิปรายกับลุง แบบมีเราต้องมีลุง มีลุงต้องมีเราแบบนี้เสียแล้ว ถือว่า ตระบัดสัตย์ ไม่ตรงปก ตามที่หาเสียงไว้ หรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว