8 ต.ค. 2562 เวลา 15.48 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เครือข่ายสมัชชาคนจน เริ่มเคลื่อนขบวนขยับเข้ามาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่มีการดันกันระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน เพื่อขยับแนวรั้วเหล็กกั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศว่าประชาชนกำลังทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 และประตูหน้าทำเนียบรัฐบาลได้ปิดรวมถึงมีตำรวจยืนกั้นชั้นในประตูรั้ว
ต่อมาเวลา 16.46 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานอีกว่า ทางรัฐบาลส่งนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) มาเจรจากับชาวบ้านสมัชชาคนจน หลังจากที่ชาวบ้านรอเจ้าหน้าที่มาทั้งวัน โดยนายเทวัญรับปากว่า จะไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของสมัชชาคนจน ได้แก่ เรื่องเขื่อน ที่ดิน ป่าไม้ และเรื่องราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ด้านสมัชชาคนจนหวังจะได้รับคำตอบในการแก้ไขปัญหาและระยะเวลาของการแก้ไขภายใน 10.00 น. ของวันที่ 9 ต.ค. 2562
(ภาพ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน )
ทั้งนี้ ตามที่สมัชชาคนจนได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน และขอนัดหมายการเจรจาการแก้ไขปัญหาในวันที่ 7 ต.ค. 2562 ซึ่งได้รับการประสานงานจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนัดหมายสมัชชาคนจนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 แต่ฝ่ายรัฐบาลได้ยื่นข้อเสนอต่อสมัชชาคนจน ให้ใช้กลไกในการแก้ไขปัญหาผ่านคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ
ทางสมัชชาคนจนเล็งเห็นว่ากลไกการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นกลไกโครงสร้าง “แบบเสื้อโหล” ไม่มีรัฐมนตรีจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหามาร่วมเป็นกรรมการ มีแต่ฝ่ายข้าราชการที่เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับสมัชชาคนจน และไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเชิงนโยบาย ที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้น ทางสมัชชาคนจนจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ให้มีการเปิดเจรจา “อย่างเสมอหน้า” โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเจรจา และให้มีอำนาจในการตัดสินใจที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งมีความยึดโยงกับประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ควบคุมดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของสมัชชาคนจน ด้วยเหตุนี้ ทางสมัชชาคนจนมีความจำเป็นต้องออกมารณรงค์เรียกร้องเพื่อให้เกิดการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเสมอหน้ากันระหว่างสมัชชาคนจนกับรัฐบาลตามข้อเสนอข้างต้น