น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนออนุมัติ 38,105 อัตรา (24 สายงาน) ตามที่เสนอมาโดยมีเงื่อนไขดังนี้ ให้ยกคนกลุ่มเดิมที่ทำงานอยู่แล้วเป็นข้าราชการ โดยการการสอบคัดเลือกใช้ ม.55 ซึ่งจะไปทำความตกลงกันอีกครั้งว่าจะใช้วิธีสอบคัดเลือกแบบไหน ผลจากกาที่ยกคนกลุ่มนี้ เป็นข้าราชการ ทำให้ไทยมีอัตราแพทย์ เต็มตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้และห้ามใช้เงินเดิมไปบรรจุคนใหม่
โดยการที่จะบรรจุอัตราว่างได้นั้นต้องเป็น ตำแหน่งอื่นที่จำเป็น ไม่ได้อยู่ในสายงาน 24 สายงานที่ได้รับการบรรจุไป เช่น แพทย์แผนไทย ต้องทดลองปฏิบัติราชการตามปกติ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้บรรจุ ในส่วนอายุราชการนับย้อนได้แต่ไม่นำมาคิดเวลาเพื่อรับบำนาญจะมีการทยอยบรรจุ 3 รุ่น คือ รุ่นเดือน พ.ค เดือน ส.ค และเดือน พ.ย. ทั้งนี้ การบรรจุก่อน 1 ต.ค. ทำให้ต้องใช้งบกลางปี 2563
ส่วนการจัดสรรอัตราข้าราชการให้นักศึกษาแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ 2,792 อัตรา (จากที่ขอ 7,579) ส่วนเภสัชกร พยาบาลและนักวิชาการสาธารณสุข (4,787 อัตรา) ให้ทำแผนเสนออีกครั้ง และให้เงินเพิ่มพิเศษ (2,700 ล้าน) แบ่งเป็น กลุ่มปฏิบัติงานตรง เช่น แพทย์ พยาบาล 1,500 บาท ตั้งแต่เดือน เม.ย.ถึงเดือน ก.ย.และกลุ่มสนับสนุน 1,000 บาทเดือนตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือน ก.ย. และให้โควตาพิเศษ 2 ขั้น อายุราชการทวีคูณ ไม่อยู่ในเกณฑ์ตามกฎหมาย ตามกฎหมายจะระบุให้เฉพาะ ตอนประกาศกฎอัยการศึกเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ลดดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษของ สำหรับ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน รวมถึงจ่ายเงินช่วยบุคลากรที่ติดเชื้อ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด และบุคคลากรทางการแพทย์ได้รับบริจาคการทำประกันสุขภาพแล้ว จำนวน 320,000 กรมธรรม์ สำหรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่รัฐมอบให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข และมอบให้แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ของสังกัดอื่นด้วยเช่น ตำรวจ ทหาร มหาวิทยาลัย ท้องถิ่น สายแพทย์ที่เกี่ยวกับโควิด-19 อีกด้วย