นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กระแสค่าเงินบาทที่อ่อนค่ารวดเร็วในช่วงนี้เกิดจากสภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินโลกยังสูง ขณะที่ค่าเงินบาท รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ เป็นเหรียญ 2 ด้านจากปัจจัยทั้งภายในประเทศ และปัจจัยต่างประเทศ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
อย่างไรก็ตาม การที่พบว่ามีเงินทุนต่างชาติไหลออกจากประเทศไทย เป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยจากการส่งออกที่ลดลง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย เหล่านี้เป็นปัจจัยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำ ส่วนสภาพคล่องยังสูงซึ่งเห็นจากเงินฝากไหลกลับเข้าไปในธนาคารพาณิชย์
ผู้ว่าการ ธปท. ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ไม่ห่วงเงินทุนไหลออก เพราะไทยมีกันชนแข็งแรง มีเงินสำรองระหว่างประเทศที่สูง และยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะเกินดุลน้อยลง อีกอย่างไทยเรามีหนี้ต่างประเทศน้อย ดังนั้น เงินที่ไหลออกจึงไม่ได้กระทบกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศและไม่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ขณะที่สภาพคล่องในระบบยังสูง เห็นได้จากมีเงินสภาพคล่องไหลกลับเข้ามาในระบบธนาคารพาณิชย์ ส่วนเงินทุนที่ไหลออกที่เห็นเป็นการไหลออกจากตลาดพันธบัตร
ส่วนทิศทางค่าเงินในช่วงครึ่งหลังปี 2563 กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังผันผวน ไม่ได้เคลื่อนไปในทางใดทางหนึ่ง เพราะโจทย์ของโลกยุคใหม่คือการเผชิญกับความผันผวน ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง
ทั้งนี้ เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (20 ก.ค.) ที่ระดับ 31.69 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ใกล้เคียงกับค่าเงิน ณ สิ้นวันทำการวันศุกร์ (17 ก.ค. 63) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 31.702 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (20-24 ก.ค.) ที่ระดับ 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ของไทยและต่างประเทศ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน สัญญาณกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย และข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย.