ไม่พบผลการค้นหา
’เศรษฐา' ประกาศพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง หลุดพ้น "จนแล้ว จนอยู่ จนอีก" มั่นใจพาไทยให้มีศักยภาพสูง และเอาบัตรคนจน ติดข้างฝา ประจานรัฐบาลปัจจุบัน

วันที่ 5 พ.ค. 2566 ที่ลานพาร์ค สยามพารากอน เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นพูดประเด็น : อนาคตคนรุ่นใหม่ อนาคตของกรุงเทพฯ อนาคตประเทศไทย ภายในงาน “เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิต เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อไทย”

เศรษฐา พารากอน IMG_2315.jpegเศรษฐา พารากอน IMG_2313.jpegเศรษฐา เพื่อไทย แลนด์สไลด์ IMG_2311.jpeg

โดย เศรษฐา กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะทำให้ชีวิตคนรุ่นใหม่และคนกรุงเทพ ที่วันนี้ปลากัดตีนถีบพ้นอุปสรรค เพราะการจะเป็นผู้นำ ทำอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งปัญหาเราเดือนร้อนมา 8 ปีแล้วเพราะมีผู้นำที่ไร้หัวใจ ไม่เข้าใจความยากลำบากประชาชน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมาหาเสียงว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไรทั้งที่เป็นรัฐบาลอยู่ ซึ่งผู้นำพรรคเพื่อไทยจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ และประชาชนจะได้รับสิทธิจากรัฐบาลที่มีหัวใจ พร้อมย้ำว่าทหารไม่ได้เป็นอาชีพเดียวที่รักชาติ ชายไทยควรได้รับสิทธิการเลือกเกณฑ์ทหารที่สถาบันมีเกียรติศักดิ์ศรี แต่การบังคับถือเป็นการลิดรอนสิทธิประชาชน ฉะนั้นถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราจะแก้ให้เร็วที่สุด ส่วนคนที่ไม่เป็นทหารก็มีสิทธิมารับเงินเดือน 25,000 บาทได้ และก็จะช่วยพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ

ส่วนที่บอกคนรุ่นใหม่ชังชาติ เศรษฐา กล่าวว่า เรื่องชังชาติส่วนตัวน้อยเนื้อต่ำใจที่นักการเมืองอาวุโสพูด และขับไล่คนที่เขารักและอยากพัฒนาประเทศ การที่เขาออกไปถือว่าเราเสียบุคลากรที่มีคุณภาพ ฉะนั้นควรมีพื้นที่ให้เขาแสดงออกแต่อาจอยู่ในกรอบ พร้อมเชื่อว่าคนรับไม่ได้ที่บอกให้คนรุ่นใหม่ที่ชังชาติออกไป ซึ่งถึงเวลาที่รัฐบาลนั้นควรออกไป

ส่วนการพัฒนากรุงเทพฯ และเศรษฐกิจประเทศ เศรษฐา กล่าวว่า ตนหวังว่า กทม.จะเป็นศูนย์กลางความเจริญ และหลากหลายทางความคิดและความเท่าเทียม ซึ่ง กทม.มีจำนวนคนและระบบสาธารณูปโภคที่มากพอ ทั้งที่เป็นจุดหมายของต่างชาติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้นำสูงสุดที่ต้องไปเชื้อเชิญประเทศอื่นๆ ไม่ใช่เฉพาะบางประเทศ อย่าง จีน สหรัฐ ฯ ญี่ปุ่น เท่านั้น ซึ่งหน้าที่ผู้นำต้องออกไปค้าขาย เชื้อเชิญ ไม่ใช่คอยแต่เวทีเอเปคหรืออาเซียน แต่เราต้องเอานักธุรกิจออกไปเชิญเขา 

นอกจากนี้ต้องแก้ที่ระบบราชการด้วย เพื่อให้การติดต่อค้าขายมีความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเท่าทีตนพูดคคุยกับนักธุรกิต เขาอยากเข้ามาทำธุรกิจในไทย แต่ติดที่หน่วยราชการไทย 

ส่วนจะทำอย่างไรไม่ให้ความเจริญกระจุกอยู่แค่เฉพาะ กทม. เศรษฐา กล่าวว่า มีหลายวิธี โดยเงินดิจิทัล เป็นเพียงขั้นแรกในการกระจายความเจริญไปทุกพื้นที่ ไม่ใช่อยู่แค่ กทม.หรือ จังหวัดใหญ่ รวมถึงสนับสนุนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ 

เมื่อถามว่า ถ้าเป็นนายกฯ และเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะมีจุดยืนในสายตาโลกอย่างไร เศรษฐา กล่าวว่า ผู้นำต้องออกไปเจรจา ไม่ได้อยู่ในประเทศอย่างเดียว

ส่วนที่นโยบายของเพื่อไทยถูกมองอาจต้องใช้เงินเยอะ เศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตระหนักดี และทราบถึงความลำบากของประชาชน การจัดเก็บภาษีก็ด้อยกว่าเพื่อนบ้าน เราไม่มีเวลาแล้วให้ใครมาลองของ ให้ใครมาลองเป็นผู้นำ ถึงเวลาแล้วที่ต้องการผู้นำมีประสบการณ์ และพรรคการเมืองที่จะใช้ภาษีเพื่อประชาขน พร้อมเชื่อว่าถ้าประชาขนกล้าพูดว่า อย่าเอาภาษีฉันไปละเลงซื้อเสียง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเข้าใจหัวอกคนเสียภาษี วันนี้พรรคเพื่อไทยจะใช้การตลาดนำและนวัตกรรมเสริม โดยจะไม่ใช่เรืองประกันราคา หรือนโยบายทุกอย่างในวันนี้อีกแล้ว ซึ่งมันไม่มีประโยชน์ พรรคเพื่อไทยจะใช้การตลาดนำ และนวัตกรรมเข้ามาเสริม

เศรษฐา IMG_2307.jpeg

เมื่อถามว่า ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลประเทศไทยจากนี้จะเป็นอย่างไร เศรษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง เห็นได้จากแววตาที่ตนลงไปที่ ทุกคนอยากเห็นประเทศเจริญ เค้าไม่อยากได้เดือนละ 500-1,000 บาท ถ้าเกิดรัฐบาลใช้นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 จะทำให้เขาก่อร่างสร้างตัว สร้างอาชีพ

“เขาไม่ได้อยากได้บัตรคนจน เขาอยากให้บัตรคนจนหมดออกไป เพราะว่าพรรคเพื่อไทยทำให้เขาพ้นความยากจน แล้วเขาจะเอาบัตรคนจนติดไว้ข้างฝาเพื่อประจานรัฐบาลปัจจุบัน” เศรษฐา ระบุ

ในช่วงท้าย เศรษฐา ยืนขึ้นกล่าวกับผู้ร่วมงานว่า ตนมีความพร้อมที่จะเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย แต่ตนไม่ได้อยากเป็นายกฯ ของราชอาณาจักรไทย แต่อยากเป็นนายกฯที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ถ้าทำไม่ได้อย่าเป็นดีกว่า ตนจะเป็นนายกฯที่นำมาซึ่งอนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานทุกคน เพราะประสบการณ์ 30 ปีในวงการธุรกิจของตนจนเป็นบริษัทแนวหน้าของประเทศ และได้รับความชื่นชมที่ต่อสู้มาทุกวิกฤต ตนมีความพร้อม และการที่มาอยู่พรรคเพื่อไทยที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน อาทิ ทำนโยบาย 30บาทรักษาทุกโรคให้เปลี่ยนโครงสร้างของประเทศและได้รับการยอมรับจากองค์กรต่างประเทศ รวมถึงโครงการโอท็อป โครงการกองทุนหมู่บ้าน ซี่งเป็นนโยบายที่ทุกคนยอมรับว่า ทำให้ทุกคนเจริญเติบโต

โดยวันนี้ตนเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ และอยู่ท่ามกลางนักการเมืองที่มีประสบการณ์ตั้งใจรับใช้ประชาชน ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนเราพลาด 17 ที่นั่งทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในหลุมดำ เราถึงจนแล้ว จนอยู่ จนอีก ฉะนั้น 14 พ.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยพร้อมทุกมิติ และพร้อมสำหรับคนทั่วประเทศที่จะเดินไปด้วยกัน ดังนั้น 14 พ.ค.นี้เป็นวันที่ต้องคืนอำนาจอธิปไตยให้คนไทยทุกคน ซึ่งพรรคเพื่อไทยและตนพร้อม ฉะนั้นการเลือกตั้งนี้ตนขอวิงวอน ขอโอกาส กาเพื่อไทย ประเทศไทยเปลี่ยนทันที

เศรษฐา IMG_2312.jpegเศรษฐา ชูวิทย์ IMG_2345.jpegเศรษฐา พารากอน เพื่อไทย กทม IMG_2342.jpegเศรษฐา พารากอน IMG_2341.jpegเศรษฐา IMG_2340.jpegเศรษฐา พารากอน IMG_2339.jpegเศรษฐา พารากอน IMG_2354.jpegเศรษฐา  IMG_2353.jpeg