คดีเด็กสาววัย 17 ปี ขับรถยนต์พุ่งชนรถตู้โดยสารสาธารณะบนทางด่วนโทลล์เวย์ บริเวณใกล้ทางลงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือที่สังคมเรียกกันว่า “คดีแพรวา” กลับมาเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง แม้จะล่วงเลยมาแล้วถึง 9 ปี
ภายหลัง “ติน วรัญญู เกตุชู” เหยื่อผู้รอดชีวิตออกมาเปิดเผยประสบการณ์และความอึดอัดคับข้องใจ
ผู้ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไหปลาร้าหัก 3 ท่อน เข่าซ้ายแตก แขนขวาหัก ต้องนอนรักษาตัวบนเตียงขยับไปไหนไม่ได้นานถึง 2 เดือน และต้องฝึกเดินใหม่ ใช้เวลาอีก 3 ปีกว่าร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ พลาดโอกาสหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต และทิ้งรอยเเผลเป็นหลายแห่งไว้ให้จดจำ
“เขาไม่เคยจ่ายอะไรเลย ค่ารักษาพยาบาล 4-5 แสนบาท ประกันภัยรถยนต์เป็นคนจ่ายทั้งหมด แต่หลังจากออก รพ. เวลาไป follow up เราก็ต้องออกเอง”
ติน วรัญญู ให้สัมภาษณ์กับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากคิดทั้งค่ารักษาพยาบาลและการติดตามฟ้องร้องคดี ซึ่งหมายรวมถึงค่าธรรมเนียมศาลต่างๆ ตลอด 9 ปี คาดว่าอาจสูงถึงหลักล้าน ยังไม่นับค่าเสียโอกาสต่างๆ ที่ประเมินเป็นตัวเงินไม่ได้
คดีนี้ในทางอาญาสิ้นสุดไปแล้วเมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาจำคุก แพรวา 2 ปี โทษรอลงอาญา 3 ปี พร้อมสั่งคุมประพฤติห้ามขับรถจนถึงอายุ 25 ปี
ขณะที่ในทางแพ่งเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา “ติน วรัญญู” ระบุว่า ศาลแพ่งได้สั่งให้จ่ายเยียวยาเขาเป็นเงินราว 4 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลังคำตัดสินของศาลเป็นที่สิ้นสุด เขายังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีแต่อย่างใด แม้จะล่วงเลยมากว่า 2 เดือนแล้ว
“ผมเรียกค่าเสียหายไป 1 ล้านบาท แต่สุดท้ายศาลตัดสินที่ประมาณ 4-5 แสนบาทครับ”
“ติน” ที่ระหว่างเกิดเหตุเป็นอดีตนักศึกษาชั้นปี 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ บอกว่า การออกมาเล่าประสบการณ์และความอึดอัดผ่านทางทวิตเตอร์ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือเงิน เพราะเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา คู่กรณีได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้คิดถึงความรับผิดชอบต่อผู้อื่นแต่อย่างใด
“เจอเขาก็แค่ครั้งเดียว ครอบครัวเขาก็ครั้งเดียว นอกนั้นเป็นทนาย”
ในเอกสารคำร้องให้ศาลทุเลาบังคับคดี ทนายความของแพรวา ได้ประกาศเป็นลายลักษณ์ว่า ยินดีชดใช้ถ้าคดีถึงสิ้นสุด โดยมีการยกอ้างเรื่องชื่อเสียงวงศ์ตระกูล เป็นทายาท “พลเอกยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” บุคคลผู้มีชื่อเสียงและประกอบคุณงามความดีของประเทศนี้ ฐานะทางการเงินมั่นคง สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตามคำพิพากษาของศาลหากคดีถึงที่สุด
“พนันได้เลย เดี๋ยวเรื่องก็เงียบหาย คอยดูเถอะ ครอบครัวนี้เขาไม่เคยออกมาพูดหรอกครับ” ชายหนุ่มวัย 29 ปีบอกและว่า เมื่อครั้งอยู่ในศาลเคยเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าให้ทำใจและถือซะว่าเรื่องนี้เป็น 'เวรกรรม'
“เราไม่ควรคิดอะไรแบบนั้น” เขาบอก
สำหรับขั้นตอนตามกฎหมาย ตินได้รับคำแนะนำว่าหากหวังว่าจะได้รับเงิน ต้องดำเนินการไปฟ้องร้องกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการติดตามยึดทรัพย์หรือฟ้องล้มละลายกับทางคู่กรณี
“เอาจริงๆ คงต้องเสียเวลาอีกเยอะ ผมไม่อยากได้แล้วครับ” ติน วรัญญู กล่าวหลัง 2 เดือนที่ศาลแพ่งตัดสิน และหลัง 9 ปีที่เกิดอุบัติเหตุ
ปัจจุบันเขามีอาชีพการงานมั่นคงเป็นพนักงานบริษัทเอกชนรายใหญ่ระดับประเทศ มีความสุขกับชีวิตและไม่ได้เดือดร้อน โดยยืนยันว่าไม่ได้โกรธคู่กรณีเพียงแต่ผิดหวังในการแสดงออก ความรู้สึกผิดชอบที่ค่อนข้างบิดเบี้ยว ตลอดจนกระบวนการยุติธรรมบางเรื่องบางราว
"เราเข้าใจว่าเขาไม่ตั้งใจ มันคืออุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นหรือเปล่าสิ่งที่เพื่อนมนุษย์เขาปฏิบัติต่อกัน มันสำคัญกว่า” เขาทิ้งท้าย.
ภาพจาก ทวิตเตอร์ tintinwarunyoo , อินสตาเเกรม tintin.1990
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :