นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงการเตรียมเฝ้าระวังดินถล่มในฤดูฝน ระหว่างเดือน มิ.ย. - ส.ค. ว่าในพื้นที่ลาดชันสูงที่เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา และชุมชนที่ตั้งอยู่ริมน้ำตามร่องเขาที่มีมวลดินเคลื่อนที่ผ่าน โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ของประเทศไทย พบมีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มใน 54 จังหวัด 332 อำเภอ 1,084 ตำบลทั่วประเทศ โดยช่วงปลายเดือน มิ.ย. ต้องเฝ้าระวังในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักในบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดตราด จันทบุรี พังงา ระนอง และจังหวัดกาญจนบุรี 

ส่วนเดือน ก.ค. ช่วงปลายเดือนจะมีฝนตกชุกมากขึ้นในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่สูงกว่าค่าปกติร้อยละ 5 ประกอบกับคาดการณ์ปริมาณฝนรวมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมากกว่าค่าปกติ อาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มขึ้นได้ในภาคตะวันออกบริเวณตราด จันทบุรี และสระแก้ว ภาคใต้ฝั่งตะวันตก บริเวณพังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร และภาคเหนือบริเวณน่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และตาก

สำหรับในเดือน ส.ค. มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีปริมาณฝนมากขึ้นบริเวณตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจทำให้บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มขึ้นได้ในภาคเหนือบริเวณน่าน เชียงราย แม่ฮ่องสอน และตาก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเลย หนองคาย และอุบลราชธานี

ทั้งนี้ การเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีจะติดตามตรวจสอบสถานการณ์สภาพอากาศแต่ละพื้นที่ และติดต่อประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยพิบัติปัจจุบันมีเครือข่าย 35,259 รายจาก 51 จังหวัด พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยดินถล่มระดับชุมชนและจุดปลอดภัยเบื้องต้นดำเนินการแล้ว 940 ตำบลจากพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดดินถล่ม 1,084 ตำบลทั่วประเทศ หากพื้นที่ใดมีโอกาสเกิดเหตุจะดำเนินการแจ้งเตือนผ่านทางข้อความ SMS ทางโทรศัพท์หรือบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก