เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
ประธานาธิบดีฟิลิปเป นยูซีของโมซัมบิก กล่าวว่า 'พายุไซโคลนอิดาอิ' ที่พัดถล่มทางตะวันออกของโมซัมบิกและมาลาวีเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา อาจมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,000 คนจากการประเมินด้วยสายตาหลังจากพบเห็นศพจำนวนมากริมฝั่งแม่น้ำปุงวีและแม่น้ำบูซิของโมซัมบิก
ทางด้านหน่วยงานกาชาดสากล กล่าวว่า พายุดังกล่าวได้ทำลายเมืองเเบร์ร่า เมืองท่าของโมซัมบิกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเขื่อนแตกทำให้น้ำไหลท่วมเมืองรวมไปถึงตัดขาดเส้นทางการสัญจรไปมาเช่นกัน ปัจจุบันเมืองแบร์ร่าไม่มีไฟฟ้าใช้ และสายสื่อสารทุกอย่างถูกทำลายจากน้ำที่ไหลเข้าท่วมเมือง ขณะที่การดำเนินการด้านสาธารณสุขในเมืองก็ต้องยุติ เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้าและตัวอาคารถูกทำลายได้รับความเสียอย่างหนัก
หากตัวเลขการประเมินยอดผู้เสียชีวิตของประธานาธิบดีฟิลิปเป นยูซีถูกต้องนั้น ภัยพิบัติในครั้งจะถือว่าเป็นภัยพิบัติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงสุดของทวีปแอฟริกา
ปัจจุบันทางการโมซัมบิกรายงานว่ามียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 215 คน และสูญหายกว่าอีกหลายร้อยคนทั่วประเทศ ขณะที่ในซิมบับเว มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 98 คน สูญหายอีก 217 คน โดยเฉพาะในทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศ ทั้งนี้หน่วยงานรัฐบาลและกาชาดสากลประเมินว่า พายุไซโคลนในครั้งนี้จะสร้างผลกระทบให้กับประชาชนกว่า 1.5 ล้านคน
เมื่อปี 2000 พายุไซโคลนได้สร้างความเสียหายให้แก่โมซัมบิกเป็นอย่างมาก ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจากดินถล่มหลายร้อยคนและสูญหายกว่าอีก 650,000 คน