วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2568) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทางเรือขนส่งสินค้า ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ เข้าร่วม
การลงพื้นที่ในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากที่นางสาวจิราพร ได้เชิญ 19 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ตามข้อสั่งการของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยได้กำหนด 3 แนวทางในการกำจัดบุหรี่ไฟฟ้า คือ ปราบปราม ป้องกัน และปรับปรุง
“ด่านชายแดนคือจุดสำคัญในการสะกัดกั้นการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จากรายงานของกรมศุลกากรพบว่า ด่านท่าเรือกรุงเทพฯ มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามากที่สุด โดยจากปี 2567 ถึงปัจจุบัน สามารถตรวจจับบุหรี่ไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 948,300 ชิ้น ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศไทย ตามร้านค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะร้านที่ลักลอบขายในเขตชุมชน ใกล้สถานศึกษา รวมถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เราจึงนำมาตรการเดียวกันกับการปราบปรามยาเสพติดมาใช้ คือ Seal Stop Safe โดยทำงานร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคงในการตรวจสะกัดทุกด่านถาวร และตลอดแนวชายแดน” นางสาวจิราพร กล่าว
สำหรับการลงพื้นที่นางสาวจิราพร ได้ติดตามระบบการตรวจสอบสินค้านำเข้า ต้นทางของสินค้า สถานที่นำส่ง รวมถึงกระบวนการคัดแยกและการใช้เครื่อง X-Ray ในการสุ่มตรวจตู้สินค้าที่น่าสงสัยในการสำแดงข้อมูลการนำเข้า โดยในส่วนของสินค้าที่ตรวจยึดได้ นางสาวจิราพร มีนโยบายไม่ให้มีการระงับคดี แต่ให้ส่งดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และส่งต่อไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจเส้นทางการเงิน ดำเนินการยึดทรัพย์ และขยายผลจับกุมไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมทำบัญชีแบล็กลิสต์บริษัทที่นำเข้า-ส่งออก เพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายของบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นทาง