ไม่พบผลการค้นหา
"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ลุยหาเสียงอีสานเหนือ วันเดียว 4 จังหวัดรวด เผยแม้โพล "อนาคตใหม่" มาแรง แต่ยังต้องทำงานหนักอีก 20 วันที่เหลือ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยเริ่มต้นที่ จ.หนองคาย เข้าสักการะ หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นขึ้นรถแห่รอบตัวเมืองหนองคาย เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขต ของจังหวัดประกอบด้วย เขต 1 นายณัฐพงศ์ ชนะพันธ์ เขต 2 นายแสวง ราชพลแสน หนองคาย และเขต 3 นางตุ้มทรัพย์ พรหมหลง ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนมารอต้อนรับ โบกไม้โบกมือทักทายให้กำลังใจ

นายธนาธร กล่าวว่า แม้ผลโพลหลายสำนักจะระบุว่า พรรคอนาคตใหม่ได้รับความนิยมดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ตนเองและทีมงานชาวอนาคตใหม่ทุกคน ยังต้องทำงานอย่าหนัก เพราะยังเหลือเวลาอีก 20 กว่าวัน พรรคอนาคตใหม่จะทำให้เต็มที่ เพื่อสื่อสารนโยบายและจุดยืนต่อพี่น้องประขาชน เรามั่นใจว่าจะได้รับการต้อนรับดีขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะวันนี้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายกับสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ ประเทศไทยหยุดนิ่งอยู่กับที่มานาน ผู้คนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เลือกพรรคอนาคตใหม่ ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จจากการรณรงค์หาเสียงที่ จ.หนองคาย แล้ว นายธนาธรและทีมงานจะเดินทางไปยัง จ.บึงกาฬ ต่อด้วย จ.นครพนม และปิดท้ายด้ายการปราศรัยใหญ่ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ของ จ.สกลนคร ทั้ง 6 เขต เวลา 18.30 น. บริเวณลานอเนกประสงค์ตรงข้ามสถานีขนส่งสกลนคร แห่งที่ 2 (บขส.ใหม่)

“ปิยบุตร” บุก "ร้อยเอ็ด" ชูวิสัยทัศน์ "อีสานคืนถิ่น" เล็งสร้างอุตสาหกรรมรถไฟ-ขนส่งสาธารณะสู่ทุกตำบล 


ปิยบุตร ร้อยเอ็ด_๑๙๐๓๐๔_0014.jpg

ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปยังบ้านดงประเสริฐ อ.เสลภูมิ เปิดเวทีปราศรัยแนะนำนโยบายและผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่แบบแบ่งเขตของจังหวัด ได้แก่ นายอัมพร พัสดร เขต 1 , นางสุภาพ ติณรัตน์ เขต 4 หรือหมอลำสุภาพ ดาวดวงเด่น , นายทินกร ปิยะวงษ์ณรัตน์ เขต 5 , และนายชำนาญ โพธิคลัง เขต 6 โดยเริ่มกล่าวปราศรัยถึงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ผ่านแนวทาง “3 ยุติ” คือ 1.ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2. ยุติการรัฐประหาร, และ 3.ยุติการเมืองแบบบเก่า ทั้งนี้ระบุว่าต้องทำ 3 เรื่องนี้เท่านั้น ประเทศไทยจึงจะสามารถหลุดพ้นจากวังวนของการยึดอำนาจและเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยได้

นายปิยบุตร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะต่อภาคอีสานนั้น เราเห็นว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีศักยภาพ มีทรัพยากรมหาศาลทั้งในดินและในน้ำ มีข้าวที่ดีที่สุดปลูกที่นี่ มีศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม คนอีสานเป็นคนที่มีศักยภาพและเป็นกำลังสำคัญในการยืนหยัดต่อต้านอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม แต่ที่ผ่านมาการบริหารราชการแผ่นดินแบบรวมศูนย์ได้กดทับศักยภาพของคนอีสานเอาไว้

โดยทุกวันนี้คนอีสานต้องมุ่งหน้าเข้าเมืองหางานทำ ไม่ก็ทำเกษตรอยู่บ้านแล้วก็ต้องเผชิญกับวังวนหนี้สิน เหตุเพราะการพัฒนาที่ไม่เท่าเทียมกั ดังนั้น พรรคอนาคคตใหม่จึงมีนโยบาย และแนวทางชัดเจนที่จะพลิกผืนดินอีสาน พาคนอีสานคืนถิ่น ปลดแอกที่กดทับศักยภาพของชาวอีสาน โดยหนึ่งในนโยบายการพัฒนาที่สำคัญคือ คือการสร้างระบบคมนาคมขนส่งที่ไปถึงทุกตำบล และนำอุตสาหกรรมรถไฟมาสร้างที่ภาคอีสาน ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานและเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นขึ้นมา

“อีสานคืนถิ่น หมายถึงว่า คนอีสานต้องมีงานดีๆ เงินดีๆ ทำอยู่ที่นี่ พี่น้องเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนเมืองใหญ่จะเดินทางไปไหนสะดวกสบาย มีรถไฟบนดิน ใต้ดิน แต่พี่น้องที่นี่เวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนมันลำบากแท้ เพราะฉะนั้น พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่จะทำระบบขนส่งมวลชนครบวงจรที่นี่ ต้องมีรถไฟรางคู่ถึงทุกเมือง มีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งถึงทุกตำบล และที่สำคัญเราจะสร้างอุตสาหกรรมรถไฟขึ้นที่นี่ จะสร้างงานขึ้นถึง 500,000 ตำแหน่ง ระบบขนส่งสาธารณะและอุตสาหกรรมที่เราจะสร้างขึ้น จะทำให้พี่น้องชาวอีสานไม่ต้องเข้าเมืองใหญ่ไปหางานทำอีกแล้ว” นายปิยบุตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในช่วงเย็นนายปิยบุตร และทีมงานพรรคอนาคตใหม่ จะเดินทางต่อไปที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดรณรงค์หาเสียงต่อไป