นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งเสริมและผลักดันการส่งออกข้าวไทยตามยุทธศาสตร์ “รักษาตลาดเดิม เพิ่มเติมตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ” โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขานรับนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมการขยายตลาดเพื่อกระตุ้นให้สามารถส่งออกข้าวไทยไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น ตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวในปี 2567 เป็นจำนวน 8.2 ล้านตัน ภายหลังการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีทิศทางบวก โดยส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศด้วยปริมาณถึง 5.08 ล้านตัน

ข้อมูลการส่งออกข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์พบว่า ในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 ไทยมีปริมาณการส่งออกข้าวจำนวน 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 25.12 โดยคิดเป็นมูลค่าส่งออก 117,836 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 55.50 โดยมีปัจจัย อาทิ ผู้นำเข้าข้าวต้องการข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บในคลังอาหารเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ด้วยค่าเงินบาทอ่อนค่า ปริมาณผลผลิตข้าวของไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และประเทศอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวมากเป็นอันดับ 1 ของโลกระงับการส่งออกข้าวเพื่อควบคุมราคาข้าวและความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศจากภาวะราคาอาหารเฟ้อ 

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ยังปรับเป้าหมายปริมาณการส่งออกข้าวในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 7.5 ล้านตัน เป็น 8.2 ล้านตัน หรือมีมูลค่าถึง 4,500,000,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน (162,360 ล้านบาท) พร้อมวางแผนจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทยเพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและขยายตลาดข้าวไทยในระดับสากลให้เพิ่มมากขึ้น เช่น การจัดงาน Thai Rice Networking Forum 2024 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและสร้างเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าข้าว การจัดงาน Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวสำคัญ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีนโยบายเพิ่มราคาสินค้าเกษตร ทำให้ราคาเพิ่มเฉลี่ย 40% สนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อโอกาสประชาสัมพันธ์ศักยภาพและคุณภาพของข้าวไทย เพิ่มปริมาณส่งออกข้าวไทย เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และอุตสาหกรรมข้าวไทย ย้ำนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี ด้วยหลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“ นายชัย กล่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567