19 พ.ค. กรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าตอบรับร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลหรือยกมือโหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงเป็นฝ่ายค้าน หรือไม่นั้น กรณ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ทั้งสองกรณี แต่ยืนยันว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนคือ พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล ควรมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง และเป็นความต้องการของประชาชน พรรคชาติพัฒนากล้าจึงจะช่วย ให้เป็นไปตามนั้น
ส่วนจะร่วมลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ กรณ์ ระบุว่า ณ วันนี้ยังไม่มี ยังไม่ได้พูดคุย เพราะเรามีเพียง 2 เสียง การโหวต พิธา เป็นนายกฯ เป็นการแสดงออกโดยไม่มีเงื่อนไข
ส่วนจุดยืนการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น กรณ์ ยืนยันว่า พรรคชาติพัฒนากล้าจะไม่แก้ไข หรือยกเลิก แต่หากดูนโยบายอื่นยังมีนโยบายที่สอดคล้องกันมาก เช่น นโยบายด้านเศรษฐกิจ นโยบายต่อสู้กับการผูกขาด และภาระหนี้สิน
ในวันเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า แกนนำพรรคก้าวไกลได้ติดต่อทาบทาม เชิญพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เมื่อบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม และสามารถบรรลุข้อตกลงในการร่วมรัฐบาลกันได้ ทำให้ตอนนี้ จากเดิม รัฐบาลก้าวไกลมีเสียง ส.ส. อยู่ 314 เสียง เพิ่มเป็น 316 เสียงเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะมีการแถลงความคืบหน้าอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
ซึ่งจากการแถลงของ กตต. อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 ระบุว่า พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ที่นั่ง ส.ส. เขต 1 ที่นั่ง และได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง รวมเป็น 2 ที่นั่ง