ไม่พบผลการค้นหา
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ เริ่มทดลองให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียน ตั้งเป้าศึกษาเครื่องแต่งกายมีผลต่อการพัฒนาการเรียนของนักเรียนหรือไม่

วันนี้ (8 ม.ค.62) เป็นวันแรกที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เริ่มทดลองให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกวันอังคาร โดยตั้งเป้าเพื่อศึกษาว่าเครื่องแต่งกายจะมีผลต่อการพัฒนาและการเรียนของนักเรียนหรือไม่

นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญนอกเหนือจากการวิจัยว่าชุดไปรเวทมีผลต่อการเรียนหรือไม่นั้น คืออยากสร้างโรงเรียนแห่งความสุข โดยเฉพาะในช่วง 6 สัปดาห์ที่เหลือของภาคเรียนนี้ เชื่อว่าเพียงหนึ่งวันของนักเรียน ถ้าเด็กได้ใส่ชุดที่อยากใส่ จะทำให้เกิดความสุขและความคิดสร้างสรรค์ 

นอกจากนี้ ยังเป็นการจำลองสภาพสังคมที่แท้จริงมาไว้ในโรงเรียน ที่นักเรียนจะมีโอกาสได้นำเสนอความเป็นตัวตน โดยมีอาจารย์คอยให้คำแนะนำ ซึ่งส่งผลให้เด็กปรับตัวเข้ากับความเหมาะสมของสภาพสังคมได้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียน ย้ำว่า ถ้างานวิจัยดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย จะยังคงให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเรียน แต่ไม่ใช่ทุกวันตลอดสัปดาห์ และยืนยันว่าไม่มีแนวคิดยกเลิกการใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียน 

ส่วนประเด็นการปล่อยให้แต่งกายฟรีสไตล์ จะบานปลายสู่การนำแฟชั่นมาแข่งขันกันหรือไม่ ผู้อำนวยการ ระบุว่า ส่วนใหญ่เครื่องแต่งกายที่นุ่งมา เป็นของเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะมี ก็จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ว่าความเหมาะสมที่แท้จริงอยู่ตรงไหน 

เช่นเดียวกับ ตัวแทนนักเรียน เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว โดยมองว่าไม่มีผลกระทบต่อการเรียน ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และผู้ปกครองก็เห็นด้วยแต่ขอให้อยู่บนความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ไม่ควรใส่ชุดไปรเวทมาเรียนทุกวัน ควรจะยึด 1-2 วัน ที่ต้องใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียน 

สำหรับแนวคิดนี้มีการพูดคุยระหว่างครู นักเรียนและผู้ปกครองมานานกว่า 10 ปี และที่ผ่านมา โรงเรียนให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาในช่วงที่โรงเรียนมีกิจกรรม ซึ่งครั้งนี้ เป็นการทดลอง 1 ภาคเรียนโดยไม่บังคับ และหากพบว่าการแต่งชุดไปรเวท มีผลกระทบต่อการเรียนและพัฒนาการของเด็ก จะยกเลิกแนวคิดนี้ทันที