เกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่ม 2 ครั้งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 7 ก.พ. เรือนักท่องเที่ยวล่มที่บริเวณใกล้เกาะเสม็ด จ.ระยอง ซึ่งเรือลำดังกล่าวบรรทุกนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 23 คน เป็นผลให้นักท่องเที่ยวต้องลอยคอกลางทะเลนานนับชั่วโมง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.พ. โดยเรือล่มในทะเลที่ จ.ภูเก็ต โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการชนกันระหว่างเรือสปีดโบ๊ตบรรทุกนักท่องเที่ยวจีน เฉี่ยวชนกับเรือบรรทุกน้ำจืด มีนักท่องเที่ยวจีนบาดเจ็บรวม 11 คน
ทั้งสองเหตุการณ์นั้นได้รับการกล่าวขวัญเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลมีเดียของจีน ในเว่ยป๋อมีการติดแฮชแท็กข่าวเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตที่เกิดขึ้นล่าสุด มีผู้เข้าไปอ่านข่าวดังกล่าวแล้วกว่า 43 ล้านครั้ง ขณะที่คลิปวิดิโอเหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้มีผู้ชมกว่า 3 ล้านครั้ง และคลิปวิดีโอเรือล่มกลางทะเลของสำนักข่าวโถวเถียวซินเหวิน มีผู้ชมไปแล้วกว่า 2.7 ล้านครั้ง ขณะที่เนื้อข่าวดังกล่าวมีผู้เข้าไปอ่านข่าวดังกล่าวมากกว่า 14.3 ล้านครั้ง
Sina weibo สื่อโซเชียลของจีนตั้งคำถามถึงอุบัติเหตุทางน้ำที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ว่ามาตรการรักษาความปลอดและการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของเรือที่บริการนักท่องเที่ยวในไทยมีการปรับปรุงหรือไม่ เนื่องจากในแต่ละปีมีคนจีนประสบอุบัติเหตุทางน้ำ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนั้นเป็นจำนวนหลายสิบคนขณะที่มาท่องเที่ยวในไทย
และนับตั้งแต่อุบัติเหตุทางเรือที่เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อช่วงกลางปี 2018 ที่ผ่านมา ทางการไทยได้กล่าวว่าจะมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของการท่องเที่ยว รวมไปถึงการยกระดับความปลอดถภัยทางด้านการท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการสอดส่องเรื่องยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยวให้มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นระยะๆ
หลิว ซือมิน ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวปักกิ่งของจีนกล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มากขึ้นส่งผลต่อมาตรการในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาวของฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จำนวนของเรือที่รองรับนักท่องเที่ยวนั้นกลับมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ หลิวซือมินยังกล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมาย รวมไปถึงการปรับปรุงมาตรฐานการท่องเที่ยวของไทยนั้นทำได้ยากในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากมีเงื่อนไขเรื่องการทำรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของคนจีน
ทั้งนี้ สื่อจีนยังกล่าวเตือนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทยว่า ให้ระมัดระวังตนเองในการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของผู้ให้บริการการท่องเที่ยวในไทยอย่างที่ละเอียดก่อนจะตัดสินใจซื้อทัวร์ เนื่องจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนแปลงไป นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางด้วยตนเองหรือ FIT มีมากขึ้น จึงยากที่ทางการจีนจะเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทยได้อย่างทั่วถึง
ตามรายงานของเว็บไซต์สถานกงสุลจีนประจำจังหวัดสงขลาระบุว่า เมื่อปี 2017 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยประมาณ 4 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากการจมน้ำ 49 คน ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจีนประสบอุบัติเหตุทางจราจรเช่นรถจักรยานตร์และรถยนต์ในไทยกว่า 200 คน ขณะที่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 เหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง