ที่สำนักงานอัยการ จ.มหาสารคาม พงศธรณ์ ตันเจริญ หรือ สหายบอย นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม แกนนำกลุ่มแนวร่วมนิสิต มมส. เพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย ไกรวัฒน์ โสมูล ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมารายงานตัวต่ออัยการ หลังได้รับหมายจากอัยการจังหวัด ในข้อหาเป็นผู้จัดให้มีกิจกรรมชุมนุม โดยมี ทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.พรรคก้าวไกล อดิศักดิ์ สมบัติคำ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ วินัย ผลเจริญ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และกลุ่มคนเสื้อแดง มาคอยสังเกตการณ์และให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง
พงศธรณ์ กล่าวว่า เดินทางมาตามนัด ต้องรอลุ้นว่าทางอัยการจะสั่งฟ้องภายในวันนี้หรือไม่ ถ้าสั่งฟ้องเราก็สู้กันต่อในชั้นศาล สำหรับคดีนี้ ถูกกล่าวหาว่าจัดชุมนุมเกิดการสุ่มเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราก็ต้องสู้กันด้วยหลักฐานว่า ในข้อเท็จจริงมีคนติดโควิด-19 จริงหรือไม่ แล้วงานชุมนุมที่ตนจัดผิดอะไร ทำไมตนถึงโดนยัดเยียดข้อกล่าวหานี้ ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง กิจกรรมการชุมนุมวันนั้นเป็นการจัดกิจกรรมตามปกติที่ลานแปดเหลี่ยม มีคนมาร่วมชุมนุมประมาณ 5,000 คน
ส่วนการจัดกิจกรรมที่ผ่านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ณ ตอนนี้ ยังไม่มีใครติดโรคระบาดโควิด-19 เลย การที่จะใช้โควิด มาเป็นข้ออ้างในการปิดปากปิดเสรีภาพในการชุมนุมก็ดี หรือการจัดกิจกรรมการแสดงออกของประชาชนแบบนี้ ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจของรัฐ และคุกคามประชาชนอย่างมาก รัฐบาลกำลังใช้เครื่องมือทางกฎหมายเข้ามาปิดปากประชาชน ตนยอมไม่ได้ยังไงก็ต้องสู้กันต่อไปถึงแม้ว่าจะยัดคดีมาให้เป็นร้อยเป็นพันคดีตนก็พร้อมจะสู้
อย่างไรก็ตาม การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ คิดว่านี่ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่รัฐกลั่นแกล้ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ในรัฐเผด็จการแบบนี้ใช้กฎหมายคุกคาม ยัดเยียด ปิดปากประชาชน ทำให้แกนนำมาเสียเวลากับการมาต้องคดี ยิ่งเป็นการยัดคดีแบบนี้ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับคนที่เป็นแกนนำและคนที่ติดตามในขบวนที่เคลื่อนไหวด้วยกัน ทำให้กลุ่มคนรู้สึกคับแค้นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรเลยต่อการเคลื่อนไหว แต่ยิ่งจะเป็นการซ้ำเติมและเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟทำให้แกนนำในระดับสูงๆ รู้สึกว่าจะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตยมากขึ้นกว่าเดิม
ทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ได้รับการประสานจาก พงศธรณ์ว่าได้รับการเรียกตัวให้มาพบอัยการ ในฐานะ ส.ส.พรรคก้าวไกล และช่วงนี้เป็นช่วงพักการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในพื้นที่จึงได้เดินทางมาเป็นกำลังใจ ซึ่งหากได้ติดตามเรื่องนี้ก็จะพบว่าพรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอดเพราะเรามองว่าการแสดงออกของพี่น้องประชาชนการแสดงออกของนิสิตเกี่ยวกับการออกมาเรียกร้องและถือเป็นสิทธิพื้นฐาน ในเมื่อสิ่งที่ทุกคนนั้นแสดงออกด้วยเจตจำนงแต่กลับถูกดำเนินคดี
โดยล่าสุดศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ด้าน พงศธรณ์ ยืนยันเดินหน้าจัดอีสานลั่นกลองรบ วันที่ 4 ต.ค. 2563 ต่อไป โดยงานจัดที่สนามฟ้า มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป