อิทธิพร บุญประคอง ประธานสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีผู้สมัคร ส.ก. 382 คน และ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. 31 คน การที่มีจำนวนผู้สมัครเยอะเป็นเรื่องที่ดี แสดงว่าหลายฝ่ายให้ความสนใจต่อการเข้ามาทำหน้าที่บริหารเมือง และในการเลือกตั้งทุกครั้ง ก.ก.ต.จะจัดทำเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สมัครแต่ละคน จัดส่งถึงบ้านของประชาชนอยู่แล้ว การจดจำผู้สมัครจึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไร ส่วนปัญหาร้องเรียนต่างๆ ยังไม่มีเข้ามาแต่อย่างใด 

กรณีการติดป้ายหาเสียงของแต่ละผู้สมัคร ประธาน ก.ก.ต. ระบุว่า ได้กำชับกับผู้สมัครทุกคนมาโดยตลอดว่าต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยวิธีการและลักษณะต้องห้ามที่ทางก.ก.ต.อย่างเคร่งครัด โดยการติดป้ายจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ไม่กีดขวางทางสัญจรหรือการจราจร ซึ่งทางผู้อำนวยการส่วนท้องถิ่นสามารถขอให้มีการเคลื่อนย้ายหรือนำออกได้ หากว่าผู้สมัครจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ก็สามารถนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนต่อไปได้ 

เมื่อถามถึงการตรวจสอบกรณีของ เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่พูดถึงการใช้เงินระหว่างการเลือกตั้ง อิทธิพร ระบุว่า เนื่องจากตนยังไม่ได้รับทราบในรายละเอียด จึงไม่สามารถให้ข้อเท็จจริงอะไรได้ อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติ ก.ก.ต. ได้เริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเบื้องต้นแล้ว หากว่ามีมูล ก็จะนำเข้าสู่ขั้นตอนสืบสวนไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ยืนยันไม่ล่าช้าแน่นอน

ทั้งนี้ ส่วนตัวยังไม่ได้ฟังคลิปเสียง เสกสกล แต่ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ระบุว่า ห้ามใช้เงินหาเสียงเกิน 1.5 ล้านบาท หากเกินจะถือว่าเป็นมีความผิด เบื้องต้นกรณีของ เสกสกล อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (1) ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใด ให้ เสนอให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่คำนวณเป็นเงินได้ รวมถึงอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง