ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคันนายาว เบอร์ 5 พรรคเพื่อไืทย กล่าวถึงกรณีคดีคุกคามทางเพศของอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ว่า ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เสียหายและขอชื่นชมที่กล้าลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะในสังคมไทยการคุกคามผู้หญิงมีอยู่เสมอ โดยเฉพาะการคุกคามจากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่า ทั้งในที่ทำงาน หรือแม้แต่ในสถานศึกษาอย่างโรงเรียน มหาลัย และการคุกคามก็มีหลายรูปแบบตั้งแต่ การใช้วาจา การแตะเนื้อต้องตัว จนไปถึงการใช้กำลังข่มเหง ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และไม่ว่าใครก็ตามที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ว่ารวย มีตำแหน่งใหญ่โตมาจากไหน ก็ต้องถูกลงโทษ
ด้าน มธุรส เบนท์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตสะพานสูง เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศไม่ควรเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าจะด้วยคำพูดและการกระทำ ที่ส่อไปในทางที่จะเปิดโอกาสให้เกิดการข่มเหงรังแกจากอีกฝ่าย โดยเฉพาะหากผู้นั้นมีสิทธิพิเศษ มีสถานะทางสังคมที่พร้อมใช้อำนาจข่มขู่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าซึ่งเกิดขึ้นในหลายวงการและเกิดขึ้นทั่วโลก จึงขอฝากความหวังไว้ที่กระบวนการตรวจสอบการกระทำผิด ต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรม โปร่งใส สร้างหลักประกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในสังคมซ้ำอีก ในนามของผู้หญิงคนหนึ่ง นักการเมืองที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ นภัสสร พละระวีพงศ์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้มีการปกป้องสิทธิของผู้หญิงอย่างเต็มที่ เพราะผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอ แต่ด้วยสรีระร่างกายอาจทำให้สู้กำลังผู้ชายไม่ได้ และหากผู้ชายมีพฤติกรรมที่ย่ำยีผู้หญิงไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหน มีอำนาจ มีเงินก็ต้องถูกลงโทษ หากตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง และไม่ว่าใครก็ตามที่มีพฤติกรรมแบบนี้ สังคมต้องประณามและกฎหมายต้องลงโทษ