นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียง ร่วมกับผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อบางส่วนของพรรคแถลงแนวทางหาเสียงของพรรค ซึ่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งได้หาเสียงต่อเนื่องมาปกติอย่างแข็งขัน และประชาชนตอบรับอย่างดี ทั้งอยากให้แกนนำพรรคช่วยหาเสียงในพื้นที่ด้วย ทางกรรมการบริหารและคณะทำงานฝ่ายต่างๆ รวมถึงแกนนำพรรค ที่ยุติการดำเนินการทางการเมือง การลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยใหญ่ไปชั่วคราวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หารือกันใหม่และมีข้อสรุปว่า จะเดินหน้าหาเสียงตามปกติ ตามสิทธิของผู้สมัคร ส.ส.อย่างเต็มที่ โดยคณะกรรมการหาเสียงและแกนนำจะช่วยลงหาเสียงในแต่ละเขตด้วย แต่การเปิดปราศรัยขนาดใหญ่ ต้องพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็ววันนี้ 

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่หาเสียง จะไม่พูดถึงกรณียุบพรรคที่เรื่องอยู่ในชั้นศาลโดยเด็ดขาด ตามแนวทางพรรคที่จะให้ความเห็นหรือต่อสู้คดีในระบบหรือในชั้นศาลเท่านั้น พร้อมย้ำถึงการทำงานการเมืองของพรรค ที่เห็นปัญหาประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะแก้ไขได้ต้องหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช.และให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลบริหารและแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งพรรคจะเดินตามแนวทางนี้อย่างแข็งขัน

ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. ออกมาแสดงท่าทีทางการเมืองและกรณี "เพลงหนักแผ่นดิน" ที่ถูกสังคมวิจารณ์ว่า สิ่งที่ ผบ.ทบ.ทำเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและควรปรับปรุงตัวเสียใหม่ เพราะถือเป็นการแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ที่อาจผิดกฎหมายและระเบียบข้าราชการด้วย เพราะเหมือนด่าประนามพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายเกี่ยวกับกองทัพ

อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความไม่เข้าใจกติกาในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนความสัมพันธ์ของนักการเมืองและส่วนราชการต่างๆ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรมีท่าทีคัดค้าน ที่สำคัญ เมื่อนักการเมืองได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นรัฐบาล ก็จะดำเนินนโยบายและ ผบ.ทบ.ต้องทำตาม และแม้ ผบ.ทบ.จะถูกแต่งตั้งเป็นาสมาชิกวุฒิสภาพ (ส.ว.) โดยตำแหน่ง แต่หน้าที่และอำนาจของ ส.ว. ไม่เกี่ยวกับการแปรญัตติงบประมาณด้วย

นอกจากนี้ เพลงหนักแผ่นดิน ถูกใช้ปลุกระดมให้คนไทยฆ่ากันตั้งแต่ปี 2519 จนนำสู่อาชญากรรมรัฐ 6 ตุลา 2519 สร้างความเจ็บปวดให้สังคมยาวนานมาและคนยังไม่ลืม 

ด้านนายณัฐวุฒิ ได้ย้ำถึงแนวทางพรรคที่จะต่อสู้ชี้แจงกรณียุบพรรคเฉพาะในขั้นตอนศาลเท่านั้น หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ต่อกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการโดยพรรคในทุกกรณี ส่วนกลุ่มไหนหรือใครจะเคลื่อนไหว ถือเป็นวิจารณญาณและต้องรับผิดชอบเอง ส่วนคณะหาเสียงในพื้นที่ทั้ง 7 ชุดของพรรคที่หาเสียงตามปกติเขตเลือกตั้งต่างๆ จากนี้จะมีผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรค รวมถึงแกนนำพรรค จะแบ่งกันลงพื้นที่แต่ละเขตช่วยหาเสียงด้วย

อีกทั้งยังกล่าวถึงพฤติการณ์ของ ผบ.ทบ.ที่เป็นการแสดงออกให้คนเข้าใจว่าสนับสนุนบางพรรค หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีบางคน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้สังคมเข้าใจว่า สิ่งที่ ผบ.ทบ.แสดงออกคือท่าทีของกองทัพ หรือเป็นการส่งสัญญาณให้กำลังพลหรือไม่ด้วย โดย ผบ.ทบ.มีสิทธิรักหรือชื่นชอบนักการเมืองคนใดก็ได้ เพราะมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากับคนไทยทั้งประเทศ แต่ขอให้คำนึงถึงสถานะและตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นวันนี้ นายจาตุรนต์, นายณัฐวุฒิและแกนนำบางส่วน จะลงพื้นที่ เพื่อหาเสียงและพบปะประชาชน ปราศรัยย่อยบนรถโมบาย หาเสียงเคลื่อนที่ของพรรค ที่แฟลตการเคหะบางนา พร้อมกับแกนนำพรรคและนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตที่ 21 บางนา-พระโขนง ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'พีเน็ต' ร้องเจ้าหน้าที่รัฐ- กองทัพวางตัวเป็นกลาง ไม่สร้างบรรยากาศขวางเลือกตั้ง
• แกนนำ ทษช. ประกาศยุติปราศรัยใหญ่ ขอมุ่งสู้ในศาล รธน. เชื่อประชาชนยังเลือกฝ่ายประชาธิปไตย