ผู้สื่อข่่าวรายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 15 พ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมวิถีชีวิตชุมชนท่องเที่ยวตําบลหนองทะเล ณ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านคลองหรูด (คลองน้ำใส) โดยมีชาวบ้านมาถือป้ายรอต้อนรับ อาทิ "เป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯ","รักลุงตู่" และ"ดีใจที่นายกมาเยี่ยม" พร้อมตะโกนว่า"รักลุงตู่ค่ะๆ เป็นกำลังใจให้นายกฯ"

โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมและชิมผลิตภัณฑ์ของดีชุมชน อาทิ น้ำพริกกุ้งเสียบ ข้าวยำทรงเครื่อง ข้าวเหนียวสังขยาและสับปะรดกวน โดนนายกฯ ชิมน้ำพริกกุ้งเสียบพร้อมยกนิ้วให้ว่า "อร่อยมาก"

จากนั้นนายกฯ ได้สวมบทเชฟโชว์ทำโรตีและชิมโรตีพร้อมระบุว่า "ผมกินได้หมดทุกภาค ดูแลคนทุกภาค ดูแลคนทั้งประเทศ ขอให้สะอาดแล้วกัน" นายกฯ ยังพูดเสียงดังชมว่า"หรอยจังฮู้ สุดยอด" จากนั้นนายกฯ ได้ชิมกาแฟโบราณ ซึ่งด้วยความที่กาแฟร้อนมากจึงลวกปากเล็กน้อย ก่อนที่นายกฯ จะรีบบอกว่า ร้อนๆ พร้อมหาที่วางแก้ว เรียกเสียงหัวเราะให้กับชาวบ้าน นายกฯ จะเขียนลายเซ็นบนภาพวาดผ้าบาติก และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บริเวณสะพานจุดชมวิว

จากนั้นหลังจากถ่ายภาพหมู่ นายกฯ ได้โพสถ่ายภาพเดี่ยว และกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "ถ้าให้ดีกว่านี้ น่าจะเอากางเกงว่ายน้ำขาสั้นมาสักตัว"

นายกฯ ยังกล่าวกับชาวบ้านด้วยว่า ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในกิจกรรมต่างๆที่ทำ ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดประเทศเพื่อท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งการจะสำเร็จได้หรือไม่ได้ ด้วยคนไทยทุกคนต้องเป็นเจ้าภาพที่ดี รวมถึงเรื่องความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งธรรมชาติประเทศอื่นไม่มีแบบบ้านเราธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะรอยยิ้มสยามต้องรักษากันไว้ให้ได้ขอให้กำลังใจทุกคน 

จากนั้นนายกฯ ได้หยุดทักทายเด็กๆที่มาเล่นน้ำที่คลองน้ำใส สวยได้สอบถามเด็กๆว่าโรงเรียนเปิดเทอมแล้วหรือไม่ สนุกไหม ก่อนเปรยว่า อยากพายเรือเหมือนกันแต่ไม่มีเวลา 

ก่อนที่นายกฯจะขึ้นรถ ได้มีการเปิดเพลงบ้านเกิดเมืองนอน โดยนายกฯ ได้กล่าวว่า “ฟังเพลงนี้แล้วนายกฯ มีกำลังใจ”พร้อมทำให้ทุกอย่างขอเวลาแก้ไขปัญหาให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯนั่งรถเพื่อที่จะเดินทางไปยังจุดต่อไปได้ยกมือเคาะตามจังหวะเพลง พร้อมกล่าว ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกับชาวบ้านที่มาส่งว่า ขอให้ช่วยกันร้องหน่อย และหนึ่งในขาวบ้านที่เป็น อสม.กล่าวกับนายกฯว่า "พวกเรา อสม.รักท่านนายกฯ นะคะ" โดยนายกฯกล่าวว่า"Yas" พร้อมกล่าวว่า "เราแลกเลือดเนื้อมาเพื่อแผ่นดินผืนนี้ ภาคใต้นี้ ขอให้รักษาไว้ให้ได้ ขวานทองอยู่กับชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนตลอดไป จำคำพูดผมไว้"

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ จ.กระบี่ นายกฯและรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าบาติกหลากสีสันเป็น“ผ้าลายของเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีฯ”สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงพระราชทานแบบลายผ้า โดยเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป จ.กระบี่

นายกฯ บ่นวัคซีนเยอะ แต่ไม่มีคนฉีด ลั่นไม่ได้มาหาเสียง

เวลา 14.00 น. จุดที่สุดท้ายหาด นพรัตน์ธารา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาพบประชาชนได้พบผู้ประกอบการ เรือหางยาว โดยได้กำชับ ว่าอย่าฉวยโอกาสขึ้นค่าบริการ หากรักษามาตรฐานตรงนี้ได้เชื่อว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี ก่อนที่นายกฯ จะลงเรือไปตรวจเยี่ยมเรือบริการนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่บริเวณชายฝั่ง

ลั่นพลิกโฉมประเทศ - ตปท.กำลังจ้องไทยอยู่

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนพร้อมกับ ระบุว่า วันนี้กำลังพลิกโฉมประเทศไทย คำว่าพลิกโฉมประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จะทำให้ประเทศดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งศักยภาพ แนวคิด หลักคิด ปัญหาอุปสรรค การขจัดปัญหาอุปสรรคที่มีปัญหา เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องเหมาะสมและเพียงพอ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาเสถียรภาพของรัฐภายในประเทศนี้ หากไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีความเข้มแข็ง ก็จะเกิดความวุ่นวาย ไม่มีความสำเร็จทุกเรื่อง ขณะนี้ต่างประเทศกำลังดูอยู่ ส่วนโครงการต่างๆ ก็กำลังคิดอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน นี่เป็นโครงการของประเทศเรา เราเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณที่ยาว ประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 และฟื้นฟูเงินถึง 25% ของงบประมาณ GDP ต้องเข้าใจระบบงบประมาณ

“นี่คือระบอบประชาธิปไตย แต่ตอนนี้เห็นว่าทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมด สิ่งที่ผมคิดมาอะไรที่ยังไม่สำเร็จก็ว่ากันไปทีละอย่าง สำเร็จแต่คนไม่เห็น แต่สิ่งที่เห็นคือเคลื่อนที่ไปมาที่ไหนถนนหนทางก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับรถไฟรถไฟฟ้า ท่าเรือต่างๆเปิดใหม่ แต่ต้องเข้าใจว่าทำพร้อมกันไม่ได้นั่นคือประเด็นสำคัญ”

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ตนยินดีที่ได้เปิดการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่อย่างปลอดภัย มาตรการทุกมาตรการต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดเด็ดขาดตนได้สั่งการไปแล้ว อะไรที่ปล่อยปละละเลยไม่อนุญาตแล้วทำก็ต้องถูกลงโทษสถานหนัก เช่น สถานบริการ นี่คือกติกาที่ต้องมีให้แก่กัน จะบอกว่าขาดทุนเยอะอะไรก็ไม่ได้ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นมาอีกรอบ เพราะจะถอยหลังกลับไปอีกกว่าจะเปิดได้ใช้เวลาเท่าไร รัฐบาลพยายามทำเต็มที่แล้ว ต้องอยู่กับรัฐบาล สถานประกอบการ ผู้บริโภค ประชาชน สังคม ว่าจะช่วยกันทำให้สังคมลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างไร มัวแต่โทษกันไปโทษจะมาทำเต็มที่

นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนให้ครบ มีน้อยก็บ่น มีเยอะก็ไม่ฉีด ไม่กล้าไป ฉีดแล้วอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่ป่วยรุนแรงไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้ก็พยายามทำให้ถึงร้อยละ 70 ก่อน ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนภายในประเทศทั้งของจุฬาและมหิดลคาดการณ์ว่าในปีหน้าสำเร็จ

“มาประชุมในวันนี้ จะเป็นการประชุมด้านความคิดต่างของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ต้องช่วยกันทำช่วยกันคิดช่วยกันแก้ อะไรที่ไม่ดีก็รู้อะไรที่ดีก็รู้อะไรทำได้ก็รู้ ทุกคนค่ะเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะไปได้ทั้งหมดประเทศไทย เพราะฉะนั้นเรื่องการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้านเศรษฐกิจรู้อยู่แล้วประเทศไทย GDP สูงสุดการท่องเที่ยวบริการ รัฐบาลพยายามบริหารจากห่วงโซ่เหล่านี้ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มนวัตกรรมวิจัยพัฒนาเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ ถ้าระบบเกษตร คือ ขายข้าวจบก็คือจบ ข้าวผันผวนเดี๋ยวอะไรก็ไม่รู้รัฐบาลมีหน้าที่ก็ประกันไป ต้องมีการอธิบายเขา รัฐบาลไม่สามารถไปสั่งนู่นสั่งนี้ได้ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามกฎหมาย น้ำมันด้วย ทุกอย่างมีต้นทุนต้องเข้าใจว่าอะไรคือต้นทุนอะไรคือการแปรรูป อะไรคือการเพิ่มมูลค่าหรือการตลาดมีทุกค่ายอยู่ตรงนี้ถ้าบังคับได้ก็คงดี เพราะฉะนั้นก็มีกฎหมายวางตัวที่ทำได้ วันนี้ต้องกลับไปดูใหม่ทั้งหมด อะไรที่ช่วยตัวเองได้ก็ช่วยไปก่อนได้หรือไม่ งบประมาณมีจำกัดต้องค่อยๆทยอยให้ ตอนนี้ลดดอกเบี้ยลดค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่พอ แล้วสนามบินจะเกิดได้หรือไม่สะพานจะเกิดได้หรือไม่ถ้าโดนจะเกิดได้หรือไม่นี่คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้นด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ แล้วเริ่มจากตัวเอง

นายกฯ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ก็จะมีการเสนองบประมาณโครงการขึ้นมาจำนวนมากให้ตนได้พิจารณา ประเทศไทยมีกี่หมู่บ้านคนไทยทั้งสิ้น จ.กระบี่ ถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้สูงอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำไม่สุจริตมันก็ไม่สุจริตอยู่อย่างนี้ลดความเหลื่อมล้ำไม่ได้เข้าใจหรือไม่ในเมื่อมีภาระมีเงินมีรายได้ดีกว่าก็ต้องดูแลคนที่มีรายได้น้อย นี่คือหลักการ ความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาสและอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ความเป็นธรรมคือการดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย เราใช้งบประมาณจำนวนมากทำอย่างไรให้ผู้มีรายได้น้อยมีชีวิตที่ดีขึ้นพอเพียงในการใช้ชีวิตที่บ้านอาศัยที่เพียงพอ นี่คือความหลากหลายทางชีวภาพ

ประเทศไทยมีมหาศาลก็สบายดีเรื่องรัฐพัฒนาในเรื่องเหล่านี้ จะปล่อยให้คนของประเทศเป็นอย่างนี้ไม่ได้คิดแล้วก็จุกคอทุกทีต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนจำไว้ 2 ครั้งคือโอกาสที่เท่าเทียมและความเป็นธรรมที่ดูแลผู้มีรายได้น้อยมีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างเพียงพอ มีเหตุมีผลความพอประมาณและมีภูมิคุ้มกันที่ดีความรู้คุณธรรมโลกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ค่าใช้จ่ายรายเดือนมหาศาลความทันสมัยเทคโนโลยี โครงสร้างสังคมให้เข้มแข็งให้ได้ไม่ว่าจะอยู่กันไม่ได้สถาบันต่างๆ

“เราเป็นชาติเดียวคนละศาสนาก็ชาติเดียวกันคนไทยด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาเก่าแก่ยาวนานจนถึงป่านนี้ นี่คือประเทศไทยประเทศของเราทุกตารางนิ้วคือของเราของคนไทยทุกคน ที่จะต้องมีทั้งโอกาส และความเท่าเทียม และความเป็นธรรม เท่าเทียมทุกคนเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว รวยไม่ได้เท่ากัน”

นายกรัฐมนตรี ได้ถามชาวบ้านถึงการปลูกข้าว พร้อมระบุว่า “นายกฯ ไม่ได้โยนภาระให้กับประชาชน โดยไม่ได้หาเสียง พูดด้วยใจจริงของตนเอง โดยความร่วมมือของคณะรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล ตนโกหกใครไม่เป็น อะไรที่ทำได้ตนทำให้ เช่น โครงการ E - Voucher ต่างๆ โครงการท่องเที่ยว เพิ่มการท่องเที่ยว 30 รายการ SHA Plus การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ ทุกอย่างต้องเดินหน้าทั้งหมด ต้องสมบูรณ์ในตัวเองทั้งหมด รัฐบาลส่งเสริมให้กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นประเทศการท่องเที่ยวระดับโลก” 

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยร่วมมือยืนยันว่า “นายกรัฐมนตรีจะค่อยๆ ช่วยทำให้ได้ทั้งหมด ทำแบบเนรมิตรไม่ได้” พร้อมถามว่า “ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง นายกฯ สอนเด็กๆ มาแล้ว พร้อมทำท่า กางมือ และกล่าวว่า “ลอยเฉยๆ ไม่มีวันจม แล้วรอคนมาช่วย นอนหงายแล้วกางมือ ไม่ตาย ผมทำมาเยอะตั้งแต่เด็กๆ แต่ ถ้าตกน้ำแล้วตะเกียกตะกายจะตายตอนนั้น เพราะไม่มีแรงหมดแรงตั้งแต่ต้น ฉะนั้นคนไทย ต้องว่ายน้ำเป็น ออกกำลังกาย เรียนสองภาษา โอเค จบไหม Thank you (ขอบคุณ)” 

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ จ.กระบี่ นายกฯและรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าบาติกหลากสีสันเป็น“ผ้าลายขอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีฯ”สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงพระราชทานแบบลายผ้า โดยเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป จ.กระบี่

จากนั้นนายกรัฐมนตรีปลูกต้นทุ้งฟ้า ต้นไม้ประจำ จ.กระบี่ และเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำหนดการของนายกรัฐมนตรีถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นเนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มกระบี่ไม่ทนที่นัดรวมตัวกันที่อ่าวนางแลนด์มาร์ค

กลุ่มกระบี่ไม่ทน ถูกตำรวจคุมตัว หลังนำป้ายลักษณะด่าทอรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มกระบี่ไม่ทน จำนวน 5 คนนำโดย พลัง หนูเหลือ รวมตัวกันที่บริเวณอ่าวนางแลนมาร์ค ไม่ห่างจากหาดนพรัตน์ธาราก่อนถึงจุดที่นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต้อนรับนักท่องเที่ยว จ.กระบี่ และพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น โดยได้มีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเชิญมวลชนให้มารวมตัวกันทำกิจกรรมไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ และเดินขบวนจากอ่าวนางแลนด์มาร์คมายังหาดนพรัตน์ธารา พร้อมนำป้ายข้อความ “รัฐบาลฆาตกร” จำนวนหนึ่งมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เข้ามา ตรวจสอบและควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรเอานางเนื่องจากมองว่า เนื้อหาในการไลฟ์สดอาจเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ป้ายข้อความ “รัฐบาลฆาตกร” ความผิดฐานหมิ่นประมาท 

ขณะที่เยาวชน 1 ใน 5 คน ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวอ้างว่ายังไม่ได้ดำเนินการอะไรที่ผิดกฎหมาย เป็นเพียงการซื้อขนมมานั่งกินริมหาดเท่านั้น ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ก่อนเข้าสู่พื้นที่จัดงานบริเวณหาดนพรัตน์ธารา แต่อย่างเข้มงวดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจรถที่เข้าออกทุกคัน