ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองได้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่เรียกให้ ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ว่า ในฐานะที่ทำคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวกับนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ได้ต่อสู้กับเรื่องนี้มาโดยตลอด จนนำไปสู่การลงโทษในคดีอาญา มีผู้กระทำผิดกฎหมายติดคุกกับไปหลายคน

ส่วน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 แต่ได้หลบหนีไปก่อนศาลมีคำพิพากษา และคดีที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่เรียกให้ ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท นั้น เป็นดุลพินิจของตุลาการที่ทุกคนต้องน้อมรับ แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ยังต้องมีการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ต้องรอฟังกันต่อไป

ราเมศ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่กระทรวงการคลังต้องเพิ่มเติมชี้ประเด็นเพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดได้เห็นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้นเหตุอันเป็นที่มาของความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน คือการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีการซื้อขายข้าวแบบ จีทูจี จริง ต้องชี้ประเด็นให้ชัดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้รับทราบข้อมูลการซื้อขายแบบจีทูจีหรือไม่ เพื่อตั้งต้นให้ได้ว่าความเสียหายทั้งหมดมาจากจุดนั้น เพราะไม่เช่นนั้นต่อไปฝ่ายการเมืองคิดจะทำอะไรก็ได้ กรณีนี้ถึงย้ำว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ในชั้นอุทธรณ์ก็ต้องติดตามกันต่อไป และถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์คิดว่าไม่มีความผิด ก็สามารถกลับมาสู้คดีได้ ในคดีอาญา หากคิดว่ามีพยานหลักฐานใหม่ก็กลับมาขอรื้อฟื้นคดีดู

ราเมศ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่กระทรวงการคลังต้องเพิ่มเติมชี้ประเด็นเพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดได้เห็นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้นเหตุอันเป็นที่มาของความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน คือการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีการซื้อขายข้าวแบบ จีทูจี จริง ต้องชี้ประเด็นให้ชัดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้รับทราบข้อมูลการซื้อขายแบบจีทูจีหรือไม่ เพื่อตั้งต้นให้ได้ว่าความเสียหายทั้งหมดมาจากจุดนั้น เพราะไม่เช่นนั้นต่อไปฝ่ายการเมืองคิดจะทำอะไรก็ได้ กรณีนี้ถึงย้ำว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ในชั้นอุทธรณ์ก็ต้องติดตามกันต่อไป และถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์คิดว่าไม่มีความผิด ก็สามารถกลับมาสู้คดีได้ ในคดีอาญา หากคิดว่ามีพยานหลักฐานใหม่ก็กลับมาขอรื้อฟื้นคดีดู

คืนความเป็นธรรมอดีตนายกฯ

ด้านภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและเลขานุการผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่่าคำวินิจฉัย ชี้ชัดว่า อดีตนายกฯ ไม่ต้องรับผิดในคดีรับจำนำข้าว คำสั่งกระทรวงการคลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นธรรมแก่ยิ่งลักษณ์ ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่า เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวอีกทั้งโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ได้ดำเนินการตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ถือเป็นนโยบายสาธารณะขนาดใหญ่ใช้เงินมาก แต่ก็ยังดำเนินการอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่ผ่านการตรวจสอบ และ การวิเคราะห์ดูแลของหน่วยงานระดับชาติ เช่น สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง ซึ่งถือได้ว่าได้ดำเนินการภายในกรอบวงเงินที่ขอไว้อย่างถูกต้อง อีกทั้งถือเป็นการดำเนินการในฐานะผู้กำหนดนโยบาย ที่ได้รับการสนับสนุนผ่านการเลือกต้ังมาจากประชาชน

ความเสียหายจากทำลายหลักการนิติธรรม นั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการกระทำต่อผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงต้องคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว ดีกว่าพยายาม จะดันทุรังและคิดหาเหตุผล แก้เกี้ยว ไม่รู้จบ เพื่อพยายามอธิบายการกระทำ ที่ผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา