วันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา วันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ ส.ส. 173 คนเป็นผู้เสนอ

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายถึงภาวะความเป็นผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาส่งผลต่อการบริหารประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำอย่างต่อเนื่อง สร้างหนี้สาธารณะทะลุ 9 ล้านล้านบาท จนไม่รู้เมื่อไรจะใช้หมด ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่หยุดแจกเงินประชาชนจะต้องเป็นผู้แบกภาระหนี้เหล่านี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 7 ครั้งภายในเดือนเดียว กองทุนน้ำมันติดลบ 1.4 หมื่นล้าน สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ก็ล้มเหลว ทำให้เจ๊งทั้งประเทศ เกิดความเหลื่อมล้ำ คนจนก็จนสุด คนรวยก็รวยสุด เกิดคดีอาชญากรรมมากมาย 

มิ่งขวัญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 3 ช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. ปี2557 ยุครัฐธรรมนูญ 2560 และยุคโควิด-19 ซึ่งมีคนพูดว่าอย่าโทษเพียงโควิด-19 อย่างเดียว ผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่เหมือนกัน เพราะมันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ และฝีมือการรับมือสถานการณ์ของรัฐบาล วันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนอยากเน้นไปที่พล.อ.ประยุทธ์ อยากถามคนไทยทั้งประเทศว่าจะ 8 ปีแล้ว เรามีความสุขหรือความทุกข์ ตนเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งทางพรรคยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ตนอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า ท่านไปทำอะไร หรือให้ใครไปทำอะไรทำให้คนพวกนั้นเปลี่ยนจุดยืน แต่ตนไม่สามารถเปลี่ยนจุดยืนที่ให้ไว้กับประชาชนได้ 

"ผมลาออก วันนี้ก็เลื่อนลำดับขึ้นมา ผมขอยื่นใบลาออก ส.ส. ผมยอมสละความเป็น ส.ส.เพื่่อให้มันจบ เพราะขอให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ ขับผมออกจากพรรค พรรคอื่นก็ขับออกสนุกสนาน เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน แต่ผมจะฝากข้อความนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือลูกน้องท่านไปทำอะไรเขาถึงเปลี่ยนจุดยืน ต้านกระแสสังคมขนาดนั้น สิ่งที่จะฝากประชาชนคนไทย ผมยังดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ผมจะใช้องค์ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ทำงานให้ประชาชน ผมจะออกไปพิสูจน์ว่า แม้ผมไม่ได้เป็นรัฐบาล ความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขไหม และผมก็จะเตรียมตัวในการเลือกตั้งสมัยต่อไป จะได้เจอกันแน่นอน"

มิ่งขวัญ ย้ำว่า ที่สำคัญที่สุดจะพิสูจน์ให้รู้ว่าแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล ความเลื่อมล้ำจะสามารถแก้ไขได้ไหม และจะไปเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า 

ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปราย มิ่งขวัญ มีเสียงสั่นเครืออยู่ตลอดช่วงของการอภิปราย ซึ่งศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้ระบุว่า “ไม่ต้องร้องไห้นะครับ” 

นอกจากนี้ ศุภชัย ยังระบุว่า คิดให้รอบคอบก่อน แต่มิ่งขวัญบอกว่าคิดรอบคอบแล้ว พร้อมกล่าวขอบคุณเพื่อน ส.ส.ทุกค  โดยที่ประชุมสภาฯ ได้มีการปรบมือเพื่อให้กำลังใจ มิ่งขวัญ

จากนั้น มิ่งขวัญได้เดินถือหนังสือลาออก ส.ส.ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่สภาฯ ที่หน้าบัลลังก์ประธานสภาฯ