ไมค์ แมคคาร์ที รองประธานกรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไปของสำนักข่าว CNN International ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความผิดพลาด ในการเข้าถ่ายทำการรายงานข่าวของทีมข่าว CNN ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู ภายหลังจากการเกิดเหตุกราดยิงเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา
แมคคาร์ทีกล่าวในแถลงการณ์ยืนยันว่า ทีมงานของ CNN ได้แสวงหาคำขออนุญาต ในการเข้าถ่ายทำสถานที่เกิดเหตุ จากเหตุสลดที่ จ.หนองบัวลำภู ผ่านทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไทยที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปถ่ายทำสภาพด้านในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก “ทางทีมงานได้ทราบแล้วว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่มีอำนาจในการให้อนุญาตการผ่านทางเข้าไป” แมคคาร์ทีระบุในแถลงการณ์ “มันไม่เคยเป็นเจตนาของทางทีมงาน ที่จะละเมิดกฎเกณฑ์ใดๆ”
“ทีมงานเข้าไปยังบริเวณอาคารผ่านทางประตูรั้วที่เปิดออกตรงหน้าลาน ที่ที่ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่ ณ ตรงจุดนั้นกันอยู่แล้ว มันไม่มีเทปตำรวจปิดขวาง ณ สถานที่เกิดเหตุในขณะนั้น” CNN ยืนยันว่า ตนเข้าไปยังสถานที่พร้อมกันกับสำนักข่าวอื่นๆ “หลังจากการทำงานอย่างระมัดระวังและให้ความเคารพภายในอาคาร ด้วยเวลาประมาณ 15 นาที ทีมงาน CNN จึงได้เดินออกมา”
“อย่างไรก็ดี ประตูที่บริเวณลานด้านหน้าถูกปิดลง” แมคคาร์ทีระบุถึงเหตุการณ์หลังทีมงาน CNN เดินออกมาจากตัวอาคาร หลังการถ่ายทำรายงานข่าวแล้วเสร็จ “และตำรวจได้นำเทปมาปิดกั้นเอาไว้ ซึ่งทำให้ทางทีมงานต้องปีนข้ามกำแพงรั้วเพื่อออกมา (จากบริเวณอาคาร)” แมคคาร์ทีระบุ ถึงนาทีที่เป็นภาพซึ่งถูกส่งต่อ หลังผู้สื่อข่าวไทยได้บันทึกภาพทีมงาน CNN กำลังปีนรั้วหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กออกมายังภายนอก
“ทีมงานได้เข้าไปยังตัวอาคารด้วยเจตนาอันดี และได้ถ่ายทอดภาพด้านในอย่างเต็มที่ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายใน และเปิดเผยให้เห็นถึงระดับของความเป็นมนุษย์ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้แก่ผู้ชม” CNN ระบุ
อย่างไรก็ดี แมคคาร์ทียืนยันว่า CNN ได้ทำการยุติการเผยแพร่ภาพและรายงาน ที่ทางสำนักข่าวได้เก็บมาจากภายในตัวอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแล้ว “CNN ได้หยุดการเผยแพร่การรายงาน และได้ลบวิดีโอออกจากทางเว็บไซต์แล้ว” แมคคาร์ทีระบุในแถลงการณ์
“เรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงการรายงานของเรา ที่การก่อให้เกิดความขุ่นหมองข้องใจ หรือการกระทำอันเป็นการละเมิดใดๆ และถึงความไม่สะดวกใดๆ ต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ในช่วงเวลาอันทุกข์โศกของประเทศ” CNN ระบุขอโทษจากการกระทำของทีมงาน อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้พูดถึงมาตรการใดๆ ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และการดำเนินการใดๆ ต่อทีมงานข่าวของตน