นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2562 เห็นชอบให้ปลากัดไทย ซึ่งมีชื่อสามัญว่า “Siamese Fighting Fish” เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ กระทรวงพาณิชย์เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นในการคุ้มครองปลากัดไทยในฐานะที่เป็นทรัพยากรพันธุกรรม (Genetic Resources) ของไทย ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
ในการดำเนินการเพื่อคุ้มครองทรัพยากรพันธุกรรมของไทย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เสนอร่างพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่..) พ.ศ. … ซึ่งได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2562 โดยมีสาระสำคัญส่วนหนึ่งกำหนดให้ผู้ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่มีการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมต้องเปิดเผยแหล่งที่มาและการแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่เจ้าของทรัพยากรพันธุกรรมนั้น ในคำขอรับสิทธิบัตร เพื่อป้องกันปัญหาการขโมยทรัพยากรพันธุกรรมไปใช้ประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือที่เรียกว่า ปัญหาโจรสลัดชีวภาพ (Bio-Piracy)
นอกจากนี้ ไทยยังเดินหน้าเจรจาเร่งรัด และผลักดันให้มีการจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศด้านการคุ้มครองทรัพยากรทางพันธุกรรมภายใต้กรอบองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) โดยหากการเจรจาจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและชุมชนที่เป็นเจ้าของทรัพยากรพันธุกรรมเป็นอย่างมาก
สำหรับประเด็นคำถามที่ว่า ชาวต่างชาติจะสามารถนำปลากัดไทยไปจดทะเบียนสิทธิบัตรเพื่ออ้างความเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวได้หรือไม่นั้น
นางสาวชุติมาฯ กล่าวว่า กฎหมายสิทธิบัตรไทยได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า สัตว์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถขอรับสิทธิบัตรได้ แต่หากเป็นการคิดกรรมวิธีใหม่ เช่น กรรมวิธีใหม่ในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ก็จะสามารถนำมาขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรได้ ซึ่งผู้ประดิษฐ์หรือนักวิจัยไทยก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน
ส่วนในต่างประเทศ แม้มีบางประเทศที่อนุญาตให้นำสัตว์ไปจดทะเบียนสิทธิบัตรได้ แต่ก็มีกระบวนการคัดค้านและเพิกถอนการจดทะเบียนตามขั้นตอนของกฎหมายภายในประเทศนั้นๆ อยู่ ดังนั้น หากมีการนำสัตว์ที่เป็นทรัพยากรพันธุกรรมของไทย เช่น ปลากัดไทย ไปจดทะเบียนสิทธิบัตรในต่างประเทศ ก็สามารถดำเนินการคัดค้านหรือเพิกถอนการจดทะเบียนตามขั้นตอนของกฎหมายได้ โดยหลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะได้กำชับสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศให้เร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศต่างๆ ทราบว่า ปัจจุบันปลากัดไทยเป็นสัตว์น้ำประจำชาติไทย ซึ่งไม่ควรมีบุคคลใดนำไปจดทะเบียนสิทธิบัตรเพื่ออ้างความเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญายังอยู่ในระหว่างดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทรัพยากรพันธุกรรมที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรเพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำทรัพยากรพันธุกรรมของไทยไปใช้โดยไม่ชอบ
โดยที่ขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ปลากัดไทยเป็นสัตว์น้ำประจำชาติแล้ว จึงขอให้หน่วยงานและองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านทรัพยากรพันธุกรรมในสาขาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนคนไทยทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาและเฝ้าระวังไม่ให้มีการขโมยทรัพยากรพันธุกรรมของไทย เช่น ปลากัดไทย ไปใช้โดยไม่ชอบ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการป้องกันปัญหาโจรสลัดชีวภาพไม่ให้เกิดขึ้น และเป็นการรักษาสิ่งที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ให้ลูกหลานของไทยสืบไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง