ตามนโยบายรัฐบาลโดยการนำของ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือ เดินหน้าปราบปราม หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด โดยให้เร่งดำเนินการจับกุมและเร่งสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นั้น
วันนี้ (20 มีนาคม 2568) นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายวุฒิ เร่งประดุงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ให้การต้อนรับ การลงพื้นที่ในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมศุลกากรและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันตรวจยึดสินค้าผ่านแดนในตู้สินค้าหมายเลข TSSU5129398 BSIU9619966 TXGU5418901 และ JXLU7999350 โดยตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง รวมทั้งสิ้น 121,490 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 21,868,200 บาท อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง พิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6 ซึ่งกรณีดังกล่าวเนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาภายในราชอาณาจักรภายใต้การอำนวยการของ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร ได้สั่งการให้ พันตำรวจตรี กล้าหาญ คล่องพยาบาล รองผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร นายปัณฑ์พิสิษฐ์ วิสาลเสสถ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีภาษีอากร 2 พร้อมคณะ เลขสืบสวนที่ 214/2567 พบว่ามีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยแต่ผู้นำเข้าไม่ดำเนินการทางพิธีการของศุลกากรจึงได้ทำการเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบ และพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง ซุกซ่อนปะปนกับสินค้าอื่น
ทั้งนี้ ของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว กรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุน ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป